5 ความผิดหวัง iPhone 6s แล้วเรายังต้องหวังอะไรกับ iPhone 7?

อาทิตย์นี่แล้ว iPhone 6s ก็จะจะขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ผมก็ได้ชื้อ iPhone 6s เครื่องหิ้ว มาเป็นรีวิวให้หลายๆคนอ่านกัน ผมจะมาบอกกับประสบการณ์จริงราวๆ กว่า 1 เดือน ว่าผมผิดหวังอะไรกับตัวเครื่อง iPhone 6s ที่ผมใช้มาบ้าง คนทั่วไปควรชื้อไหม และ เรายังควรหวังว่า Apple ควรทำอะไรบ้างกับ iPhone 7 ที่กำลังจะมาถึงในปีหน้า

ความผิดหวัง

1. หนัก – เป็นที่รู้กันว่า iPhone 6s มันไม่ใช่มือถือที่หนักมาก แต่มันหนักกว่าตัวเดิมถึง 14 กรัม และมือถือจอ 5.1 นิ้วมันเบากว่าแต่จอมันขนาด 4.7นิ้ว แค่นี้คงไม่ต้องอธิบายมาก หลายคนอาจจะบอกว่าคงไม่รู้สึกหรอก แต่ผมรู้สึก
2. Touch ID ใหม่ถึงจะเร็วกว่าเดิม แต่ก็ยังงี่เง่า – หลายสักนักบอกว่า iPhone 6s มันเร็วเกินไป ชึ่งส่วนตัวก็ยอมรับว่ามันเร็วกว่าเดิมจริง แต่ในหลายๆครั้งมันก็ไม่สามารถกดภายในครั้งหรือ 2 ครั้งเพื่อปลดล็อกได้ในขณะที่มือตอนนั้นไม่ได้เลอะ หรือ เปียกใดๆ เลย
3. กล้อง – ส่วนตัวไม่ได้ชื้อ iPhone 6 มาใช้ แต่ในขณะที่ผมเทียบกับ iPhone 5s ผมกลับไม่เห็นความแตกต่างมากนัก อาจจะเห็นได้แบบชัดเจนในเวลาชูม และหากเทียบกับคู่แข่งฝั่ง Android ตัวใหม่ๆ ผมรู้สึกว่าทำรูปออกมาได้ดีกว่าพอสมควร แถม เชนเชอร์และรูรับแสง ยังด้วยกว่าคู่แข่งพอสมควร
4. เชลฟี่ – พูดถึงกล้องหลังมาแล้ว มาพูดถึงกล้องหน้ากันบ้าง ต้องยอมรับเลยว่ามันดีกว่าเดิมแต่ก็ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ (ผมจะไม่ขอเทียบกับพวกฟีเจอร์ ฟุ้งฟริ้ง เพราะคนใช้ iPhone ส่วนใหญ่ใช่แอพ) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเก็บรายละเอียด ความคม ความกว้างของเลนส์ ส่วนตัวผิดหวังคิดว่า 5 MP จะดีกว่านี้
5. หน่วยความจำ – คงเป็นเรื่องที่น่าด่าที่สุดของรุ่นนี้เลย เพราะมันเริ่มต้น 16 GB กับมือถือราคาเกือบ 30,000 และ 30,000 กว่า ผมคงไม่ใช้คำไหนอีกนอกจากคำว่า เห้ออออออ

ส่วนในเรื่องอื่นๆ ที่คนบ่นกันอย่างเช่นไม่พัฒนา ก็ขอเถียงว่า 5s,4s อัพเกรดน้อยกว่านี้อีกครับ ก็ยังชื้อกัน และ เรื่องที่เห็นคนบ่นอีกเรื่องคือ เรื่องราคา ก็ต้องขอบอกเลยว่า ก็แพงจริงๆ แหละครับ แต่มันก็ตามค่าเงินที่ที่สูงขึ้นมาพอสมควร ถามว่าควรชื้อไหม ถ้าคุณเคยใช้ iPhone 5 หรือ 4 แล้วอัพเป็น 5s หรือ 4s แล้วก็ไม่เป้นที่น่าห่วง ชื้อไปเถอะครับ หากเงินยังเหลือ มันพัฒนามากกว่ารุ่นก่อนหน้านั้นอีก หรือหากคุณอยากรอ iPhone 7 ผมก็มีลิสสั้นๆ ว่าเราควรจะหวังอะไรกับ iPhone 7 ที่จะมาถึงในปีหน้าบ้าง

1. ขอบจอที่บางลง – เป็นเรื่องที่คนกึ่งติ่งบ่นมาก (คนใช้ Android + iOS) เพราะหากเทียบกับ Android เมื่อ 2 ปีที่แล้วอย่าง LG G2 มันกลับขอบหน้ากว่าอีก
2. เลิกจอโค้ง- ส่วนเรื่องนี้เป็นเรื่องปวดหัวมากกับจอโค้งเพราะหากใส่ กระจก ที่เต็มหน้าจอ ก็ไม่สามารถใส่เคสบางตัวได้ เพราะมันจะดันกระจกออกมา แต่หากใส่แบบ แปะข้างหน้า ก็ไม่สบายใจว่าจะปกป้องจอจากการตกด้านข้างได้หรือไม่
3. กล้องที่เชนเชอร์ใหญ่ขึ้น – การที่มีเชนเชอร์ที่ใหญ่ขึ้นมันหมายถึงคุณภาพที่ดีขึ้น ผมคงไม่หวังให้ถ่ายไฟล์ Raw ปรับตั้งค่าได้เหมือนฝั่ง Android เพราะ คนใช้ iPhone คนส่วนใหญ่จะเป็นพวก End user กดอย่างเดียว (แต่อาจจะออก API สำหรับ iOS 10 เพื่อให้แอพสามารถใช้งานได้)
4. หน่วยความจำเริ่มต้น 32 GB – ท่าน Phil Schiller ได้บอกว่า iPhone นั้นเริ่มต้น 16 GB เพราะมาจับกลุ่มผู้ที่ใช้งาน Cloud และลูกค้าที่ไม่เก็บไฟล์เยอะ แต่ยังไง 32 GB ก็อุ่นใจกว่า ว่าเม็มเครื่องจะไม่เต็มง่ายๆ
5. แบต – แม้ผมจะพอใจกับแบตของ iPhone 6s ที่หลายๆคนบอกว่าไม่ทนเอาสักเลย แต่ในเทคโนโลยีภายในปีนี้หรือปีหน้า ผมก็อยากให้มันทนกว่านี้เพราะมันก็ดีกว่าที่เราจะมีแบตเหลือในวันที่ใช้งานหนักๆ
6. Fast Charge – ปัจจุบันมือถือ Android ที่ราคา 10,000 + แทบทุกตัวจะมีระบบ Fast Charge ที่สามารถใช้งานได้โครตเร็ว สามารถชาร์จจาก 0% – 60% ได้ภายใน 30 นาที ในขณะที่ iPhone ยังใช้ระบบชาร์จตัวดิมที่ชาร์จ 0-80% ใน 2 ชั่วโมง ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าช้ามาก แต่คงดีไม่น้อยหากมันจะชาร์จเร็วกว่านี้
7. ระบบชาร์จไร้สาย – ข้อนี้ไม่มีอะไรมากครับ สาย iPhone มันพังง่าย
8. สาย Sync ที่รองรับ USB 3.0 – หากคุณใช้ iPhone/iPad 128 GB ของคิดดูสิครับ ว่าใช้เวลานานขนาดไหน

ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกของส่วนตัวสำหรับ iPhone 6s และความต้องการที่อยากได้ใน iPhone 7 ใครปัญหาสอบถามหรือคิดว่ามีข้อแย้งสามารถ Comment มาได้ด้านใต้หรือมาพูดคุยติดต่อกันได้ครับ บน Facebook และ Twitter ของเราได้เลยครับ หรือหากต้องการข้อมูลทั้งหมดสำหรับ iPhone 6s สามารถเข้าไปได้ที่ http://mf-edge.com/tag/iphone6s/ 

เพิ่มเติม – [รีวิว] iPhone 6s สี Space Gray “สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือทุกอย่าง” (แบบละเอียดยิบ)

ที่มารูป iPhone 7 – Theweek