• รีวิว iPhone 6s
  • รีวิว iPhone 7 Plus
  • Macbook
  • IOS 10
  • Fuji X-A2
  • Fuji X-A3
  • Fuji X-T10
  • เลนส์ Fujinon
  • Sony A6300
  • Lightroom
Thursday, May 15, 2025
The Peak Foto
  • หน้าแรก
  • ข่าว News
    • Canon
    • Fujifilm
    • Nikon
    • Olympus
    • Panasonic Lumix
    • Sony
    • SIGMA
  • รีวิว Review
  • ทิปส์ Tips
  • ประกวด Contest
  • อีเวนท์ Event
  • โปรโมชั่น Promotion
  • ติดต่อ Contact
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • ข่าว News
    • Canon
    • Fujifilm
    • Nikon
    • Olympus
    • Panasonic Lumix
    • Sony
    • SIGMA
  • รีวิว Review
  • ทิปส์ Tips
  • ประกวด Contest
  • อีเวนท์ Event
  • โปรโมชั่น Promotion
  • ติดต่อ Contact
No Result
View All Result
The Peak Foto
No Result
View All Result

แนะนำโหมด P A S M โหมดไหนเหมาะกับเหตุการณ์ไหน แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร (พร้อมรูปตัวอย่าง)

First by First
25/04/2016
in Canon, Fujifilm, Nikon, Olympus, Panasonic Lumix, Sony, กล้อง Camera, ทิปส์ Tips
0

มือใหม่หลายๆคน น่าจะงง ว่าเราควรเริ่มใช้กล้องโหมดไหน วันนี้ทีมงานจะมาแนะนำโหมดครับ ว่าแบบไหน เหมาะกับ สถานการไหน แล้วแบบไหนเหมาะกับเรา ไปชมกันครับ

เรามารู้กันก่อนว่าแต่ละอย่างคืออะไร? แต่ละอย่าง มี Effcet อะไรบ้าง?

ค่ารูรับแสง / Aperture / ค่า F คือ ความใหญ่ของหน้าเลนส์ ยิ่งใหญ่ (ยิ่งกว้าง) ก็สามารถรับแสงได้เยอะ หน้าชัดหลังเบลอได้ง่าย รูรับแสงยิ่งเล็ก (ยิ่งแคบ) ก็รับแสงได้น้อยลง และ ทำให้ชัดทั้งภาพ

Speed Shutter คือ ความเร็วในการเปิดปิดม่านชัตเตอร์แต่ละครั้ง ของตัวกล้อง ยิ่งเปิดนาน ยิ่งรับแสงได้มาก ยิ่งปิดเร็ว ยิ่งรับแสงได้น้อย แต่จะหยุด motion ต่างๆได้

ISO คือ ความไวแสง ยิ่งมาก ทำให้สว่างมากขึ้น แต่สัญญาณรบกวนก็จะมากขึ้น (noise) ทำให้ภาพดูไม่ชัดมาก

แต่ละโหมดต่างกันอย่างไร?

P ย่อมาจาก Program โหมดนี้ แปลง่ายๆ โหมด Auto เราสามารถกำหนดค่าได้บางอย่าง โหมดนี้แนะนำสำหรับคนที่พึ่งเริ่มถ่ายภาพ อยากให้กล้องช่วยเหลือให้มากที่สุด สำหรับโหมด P สามารถปรับ ค่าชดเชยแสง โหมด โฟกัส  White Balances, Picture Style และ ISO ได้ครับ

apsm p mode

ตัวอย่างรูปภาพของโหมด P (ผ่านการปรับแต่ง)

A (AV) ย่อมาจาก Aperture Priority (Aperture Value) โหมดนี้เป็นการใช้รูรับแสงดีไชน์ภาพ ทั้งทำหน้าชัดหลังเบลอ หรือ หน้าชัดหลังชัด โดยในโหมดนี้ เราไม่สามารถคุมได้เพียงแค่ค่า Speed Shutter ที่เหลือเราสามารถกำหนดได้หมดครับ

apsm a mode final

ตัวอย่างรูปภาพของโหมด A (ผ่านการปรับแต่ง)

Tips : หากคุณอยากได้หน้าชัดหลังเบลอเพียงแค่หมุนรูรับแสงไปที่ค่าน้อยสุดของตัวเลนส์ พยายามอยู่ใกล้วัตถุ ให้มากที่สุด แค่นี้ก็หน้าชัดหลังเบลอสบายๆแล้วครับ

S (TV) ย่อมาจาก Shutter Priority (Time Value) โหมดนี้เป็นการใช้ Speed Shutter ดีไชน์ภาพ ส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้สำหรับการถ่ายกีฬา เพราะ เราต้องการหยุด Moment นั้นๆ เพื่อไม่ให้ภาพเบลอ หรือ การที่เราต้องการเส้นรถวิ่ง เราก็ต้อง ใช้ speed ช้ามากๆ เราสามารถกำหนด Speed ได้ที่โหมดนี้ครับ ในโหมดนี้ สิ่งที่เราไม่สามารถกำหนดได้ก็คือ ค่ารูรับแสง ชึ่งจะแปลสภาพจาก Speed Shutter และ ISO ที่เราตั้งไว้

apsm s mode finalตัวอย่างรูปภาพของโหมด S (ผ่านการปรับแต่ง)

Tips : หากคุณต้องการกีฬาหรือถ่ายนก Speed Shutter ควรใช้ Speed Shutter 1/640 ขึ้นไป เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของวัตถุนั้นๆ แต่ถ้าคุณถ่ายกีฬาที่ใช้ Speed ช้าๆ หรือ อยู่กับที่เป็นส่วนใหญ่ Speed Sutter ก็ไม่จำเป็นต้องถึงก็ได้ครับ 1/200 ก็ถือว่าเพียงพอ แต่อย่างไรแล้ว ทีมงานก็แนะนำกดสัก 1-2 รูปก่อนครับ ว่า Speed Shutter เราเร็วเพียงพอไหม

M ย่อมาจาก Manual แปลง่ายๆคือ ปรับเองทุกอย่างครับ ตั้งแต่ Speed Sutter รูรับแสง iso ได้หมด เหมาะสำหรับสถานะการณ์ที่แสงคงที่

apsm m mode

ตัวอย่างรูปภาพของโหมด M (ผ่านการปรับแต่ง)

(วงเล็บคือ เฉพาะของ Canon)

ข้อเสียของแต่ละโหมด

P : ด้วยแทบจะเป็น Auto ทั้งหมดทำให้เราแทบไม่สามารถกำหนดอะไรได้เลย ในการใช้งาน ทำให้บางครั้งอาจจะไม่ได้สไตล์ภาพแบบที่เราต้องการ

A : ตัวกล้องพึ่งระบบวัดแสงของตัวกล้อง เวลาถ่ายของ ดำ ต้องชดเชยแสง ลบ ไม่งั้นของจะเป็นสีเทา หรือ ขาว ต้องชดเชยแสงเพิ่ม เพื่อให้ สีขาวไม่ออกเทาครับ ที่สำคัญเราไม่สามารถคุม Motion ของภาพได้เลย

S : หลักๆ ก็คล้ายๆ โหมด A ครับ แต่ที่เปลี่ยนจาก โหมด A ที่เราไม่สามารถคุม Motion แต่โหมด S เป็น เราไม่สามารถคุม ค่ารูรับแสงได้ครับ ทำให้เราไม่สามารถคุมหน้าชัดหลังเบลอได้

M : เนื่องด้วยเราต้องต้องปรับเองหมด ทำให้เราต้องใช้เวลาในการคุม ในแต่ละรูป มากกว่า โหมดอื่นๆ ยิ่งถ้าเป็นกล้องระดับ Entry ที่ให้ Dial มาแค่อันเดียว ก็ยิ่งทำให้ปรับช้าเข้าไปอีกครับ ต้องหมุนทีละอัน

ปล ผมพูดถึงตอนใช้ ISO Auto นะครับ เพราะคาดว่าคนส่วนใหญ่ก็ใช้กันอยู่แล้ว ยกเว้นโหมด M

โหมดไหน ปรับอย่างไรดี เหมาะสมกับตอนไหน

  • ยิงแฟลช – โหมด M ครับ วัดแสงข้างหลังให้พอดี แล้วยิงแฟลช
  • ถ่ายวิว/Landscpape – ถ้าทั่วไปแนะนำใช้โหมด A แล้วเปิด F/11 หรือ 8 (ให้หาช่วงที่คมที่สุดของเลนส์ ส่วนใหญ่ก็จะประมาณ F/8-11) วางบนขาตั้งใช้ ISO 100 เรื่อง Speed ปล่อยเลยครับ เพราะเราวางบนขาตั้งอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีขาตั้ง ใช้โหมด S หา Speed ที่เราจะถือได้แล้วไม่สั่น ตั้ง ISO Auto
  • Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ – โหมด A ตั้งค่า F/ ให้น้อยที่สุด อาทิ F/3.5-5.6 สำหรับเลนส์ Kits ทั่วไป และ ตำ่สุด อาทิ F/1.8 สำหรับเลนส์ Fix หากถ่ายตอนกลางวัน
    แต่ถ้ากลางคืน Admin จะใช้อยู่ 2 วิธีครับ คือ ปรับโหมด A ปรับ F/ ตำ่สุด ISO Auto ให้มันดัน ไปที่ Speed Shutter ตำ่สุดที่กล้องคิดว่าเราจะถือได้ก่อน และ แบบที่ 2 คือ ตั้ง Mode M รูรับแสงตำ่สุด หา Speed Shutter ที่เราจะถือได้ แล้ว ISO Auto ไปเลยครับ (หรือถ้ามีเวลาเหลือก็หมุน ISO เองก็ไม่ว่า)
  • ถ่ายกีฬา ถ่ายสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วๆ – โหมด S ครับ Speed ตามกีฬา ถ้ากีฬาเร็วมาก อาจจะไปต้องขึ้นไปถึง 1/2000 หรือ กลางๆ ก็ 1/640 กีฬาช้าๆ ก็ 1/250 ที่เหลือก็ปล่อย Auto ไปเลยครับ
  • ถ่ายดาว – แนะนำ โหมด M ครับ ใช้รูรับแสงต่ำสุด (กว้างสุด) ชัตเตอร์สปีด ลองดูที่หน้างาน  ขึ้นอยู่กับสภาพแสงที่หน้างาน แต่ไม่ควรเกิน shutter speed สูงสุด ตามกฏ 500 เช่นใช่ทางยาวโฟกัสเมื่อเทียบกับ Full Frame 16 mm ก็ใช้ 500/16 = 31 วิ หรือ ใช้ที่ 28 mm ก็ 500/28 = 17 วิครับ พอได้ Speed Shutte แล้วก็ดัน ISO เลยครับ จนไปถึงชดเชยแสง 0.3-0.7 เพราะเมื่อเราอยู่ในที่มึดแล้ว จอจะจ้ากว่าความจริงที่เราเห็นครับ เรื่อง Noise ไม่ต้องห่วงครับ เยอะแน่นนอน ไม่ต้องกลัว (อ่านเพิ่มเติม – ไปตามหาใจกลางของทางช้างเผือกกันเถอะ ++ กระทู้สอนวิธีตามหา และถ่ายภาพทางช้างเผือก )

13071996_182074305518888_3318026324029909293_o

ตัวอย่างรูปภาพของโหมด M โดยการถ่ายดาว (ผ่านการปรับแต่ง)

อย่างไรแล้วก็เป็นเพียงการแนะนำนะครับ หากจะนำไปใช้ ก็ต้องดูเป็นสถานะการณ์ไปครับ ลองไปประยุกต์ใช้กันครับ

ใครมีคำถามสงสัยสามารถถามได้ด้านล่างหรืออยากกดติดตามสามารถกดที่ได้ที่นี้เลยครับ  Facebook , twitter ขอบคุณครับ

1.1k
SHARES
ShareTweet
Tags: Cameramode
ADVERTISEMENT
First

First

Related Posts

Event อีเวนท์

รีวิวงานกล้อง Big Camera Festival 2025 ลดสูงสุด 70% ระหว่างวันที่ 2-7 เมษายนนี้ ณ สยามพารากอน

02/04/2025
Event อีเวนท์

งานกล้องก่อนสงกรานต์! BIG Camera Festival 2025 ณ สยามพารากอน 2-7 เมษายนนี้ ลดสูงสุด 70%

12/03/2025
Canon

รีวิว Canon EOS RP กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม ราคาประหยัดที่ยังน่าใช้

31/01/2025
Canon

รีวิว Canon EOS R8 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมสเปกเทพ ค่าตัวจับต้องได้

31/01/2025
Canon

รีวิว Canon EOS R5II กล้องตัวจบในทุกสิ่ง

31/01/2025
Event อีเวนท์

รีวิวงานกล้อง Big Camera Big Pro Days ครั้งที่ 18 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ 28 ส.ค. ถึง 2 ก.ย. นี้

28/08/2024
Next Post

Sony Thai เปิดเผยราคาจำหน่ายเลนส์​ FE 50 F/1.8 และ FE 70-300 F/4.5-5.6 อย่างเป็นทางการแล้ว

เตรียมเสียเงิน! แอปเปิ้ลพร้อมจำหน่าย iPhone SE ในไทย 11 พ.ค. นี้

ข่าวลือล่าสุด! สเปคและราคา Canon EOS 5D Mark IV เซนเซอร์ยังละเอียด 24.2 MP

หมวดหมู่บทความแต่ละแบรนด์

 
Canon
Fujifilm
Nikon
Olympus
Sony
Panasonic Lumix
SIGMA
DJI
 
My Tweets
The Peak Foto

ThePeakFoto.com - เดอะพีคโฟโต้ดอทคอม

เว็บไซต์ ThePeakFoto นั้นดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 มีความตั้งใจที่จะมอบคอนเทนต์ด้านถ่ายภาพในหลาย ๆ รูปแบบ ทั้ง ข่าว รีวิว รวมไปถึง เทคนิคการถ่ายภาพต่างๆ โดยจุดมุ่งหมายสูงสุดนั้น อยากให้ทุก ๆ ท่านมีความสุขกับการถ่ายภาพนั้นเองครับ :D

ติดต่อ : ThePeakFoto@gmail.com

Copyright © 2019 THEPEAKFOTO.COM All rights reserved. สงวนสิทธิเว็บไซต์เดอะพีคโฟโต้

No Result
View All Result

Copyright © 2019 THEPEAKFOTO.COM All rights reserved. สงวนสิทธิเว็บไซต์เดอะพีคโฟโต้