หลังจากทาง Sony เปิดตัวกล้อง Sony a6300 เพียงแค่ 9 เดือน สิ่งที่หลายๆคนคิดไม่ถึง นั้นก็คือ Sony ได้ประกาศเปิดตัวกล้อง Sony Alpha 6500 หรือ Sony a6500 กล้อง APS-C Mirrorless ระดับ Top จากทาง Sony รุ่นนี้หลักๆ แล้วเป็นรุ่นที่เพิ่มฟังก์ชั่นที่หลายๆคนบ่นว่าไม่มีใน Sony A6300 เข้ามา อาทิ กันสั่น 5 แกน เพิ่มบัฟเฟอร์ และ จอสัมผัสเข้ามา ส่วนรายละเอียดยิบย่อยมาดูกันครับ ทั้งนี้ทีมงาน MF-Edge จะมีการเปรียบเทียบกับ Sony a6300 มาให้ชมกันด้วย
ทำความรู้จักกล้อง Sony Alpha 6500
Sony a6500 (ชื่อเต็มว่า Sony ICEL 6500 กับ Sony Alpha 6500 ซึ่งไม่ต้องไปจำหรอก a6500 นะดีละ) เป็นกล้อง E-Mount รุ่น Top กว่า Sony A6300 จากทาง Sony ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C (x1.5)
หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเรียงอย่างไรสำหรับกล้อง Sony E-mount ก็เรียงตามนี้ครับ a5000>a5100>a6000>a6300>a6500 และ หลายคนก็สงสัยว่าถ้าเทียบกับตระกูล Alpha 7 แล้ว ตัวนี้ อยู่แถวไหน หากเทียบกับราคาแล้วจะอยู่ประมาณ Sony a7 II ครับ
เปรียบเทียบ a6500 vs a6300
Sony a6300 | Sony a6500 | |
เปิดตัว | 3/2/2016 | 6/10/2016 |
Sensor | ||
Pixel | 24.2 MP | 24.3 MP |
Size | APS-C | APS-C |
Image Processor | Bionz X | Bionz X |
ISO | 100-25600 (Extent to 51,200) | 100-25,600 (Extent to 51,200) |
Speed Shutter | 30-1/4000 SEC | 30-1/4000 SEC |
ถ่ายต่อเนื่อง | 11 ภาพต่อวิ ( 8 ภาพต่อวิ เมื่อเปิด Live View) | 11 ภาพต่อวิ ( 8 ภาพต่อวิ เมื่อเปิด Live View) |
Speed Flash | 1/160 | 1/160 |
Body | Full Magnesium Alloy Body | Full Magnesium Alloy Body |
กันละอองนำ้ | Yes | Yes |
Focus | ||
จุดโฟกัส | 425 จุด | 425 จุด |
169 จุด แบบโซน | 25 จุด แบบโซน | 25 จุด แบบโซน |
ความเร็ว (เครม) | 0.05 วินาที | 0.05 วินาที |
ขนาดจอ | 3.0 นิ้ว | สัมผัส 3.0 นิ้ว |
ความละเอียด | 921.6k | 921.6k |
Tilting | ลง 90 องศา ขึ้น 45 องศา | ลง 90 องศา ขึ้น 45 องศา |
Viewfinder | ||
ขนาด EVF | 0.39 นิ้ว | 0.39 นิ้ว |
ความละเอียด | 2359.4 k | 2359.4 k |
ขนาด นำ้หนัก | ||
ขนาด | 120 x 66.9 x 48.8 มม. | 120.0 มม. x 66.9 มม. x 53.3 มม. |
นำ้หนัก (รวมแบตเตอรี่ และ Memory Card) | 404 กรัม | 453 กรัม |
ราคา | ||
Body | 39,990 บาท | 51,990 บาท |
Body + Kits | 46,990 บาท | – |
เจาะลึก Sony a6500
กันสั่น 5 แกน ที่มีประสิทธิภาพมากสุดของ Sony
ครั้งแรกกับการที่ Sony ใส่กันสั่น 5 แกนในตัวของกล้อง APS-C E-Mount หลังจากที่ก่อนหน้านี้นำไปใส่ให้กับกล้อง Sony Alpha 7 II series ทำให้เป็นจุดเด่นสำหรับกล้อง Sony Alpha 7 II series ทำให้คนที่ใช้งานกล้อง APS-C E-mount เรียกร้องว่าให้เอามาใส่บ้าง ทำให้ทาง Sony ตัดสินใจเอามาใส่ในกล้อง Sony a6500
ประสิทธิภาพ เนื่องจาก APS-C มีขนาดเซ็นเซอร์เล็กกว่า Full Frame ทำให้ Sony เครมว่าสามารถกันสั่นได้ถึง 5 Stops กันเลยทีเดียว มากกว่า กล้อง Full Frame ถึง 0.5 Stops อย่างไรแล้วก็ทำให้ตัวกล้อง A6500 หนาขึ้น และ นำ้หนักเพิ่มขึ้น
จอสัมผัสรุ่นแรกของกล้องตระกูล Pro จาก Sony
แม้ว่า Sony จะมีการใส่หน้าจอสัมผัสบนกล้อง Mirrorless มาแล้วกับตระกูล a5000 แต่ก็ยังไม่ได้ใส่มารุ่น Simi Pro หรือ Pro + การที่คนบ่นว่าไม่มี Joystick ทำให้กล้องตัวนี้ เป็นกล้อง Pro ตัวแรกจาก Sony ที่ใส่หน้าจอสัมผัสเข้ามา ในการควบคุมจุดโฟกัสให้ง่ายขึ้น ทั้งภาพนิ่ง และ วิดิโอ แต่ก็ยังไม่ใช่ Full Time ที่สัมผัสได้ทุกอย่างแบบบางยี่ห้อครับ
วิดิโอ 4K ที่ถ่ายได้นานกว่าเดิม
ปัญหาหลักๆของ Sony a6300 จากการถ่าย 4K คือสามารถถ่ายได้ไม่นานแล้วตัวกล้องจะตัด แต่การทดสอบจากต่างประเทศนั้นพบว่า ระบบระบายความร้อนนั้นดีขึ้นมาก ใครที่สงสัยว่าดีขึ้นขนาดไหนสามารถดูได้จากวิดิโอด้านล่างครับ
ในส่วนของคุณภาพนั้นทางต่างประเทศได้มีการทดสอบว่าให้รายละเอียดดีกว่า a7rII และ a7sII และ มี Bitrate สูงถึง 100 Mbps อย่างถามว่าเทพขนาดไหน มันเกินความจำเป็นที่ลง Youtube แบบคุณภาพสูงสุด เกือบ 3 เท่า ( Youtube ใช้ Bitrate 4K อยู่ที่ 35 Mbps (อ้างอิง))
แต่หากใครยังคิดว่า 4K ไม่จำเป็น ในส่วนของ Full HD นั้นก็บันทึกได้ Bitrate สูงถึง 50 Mbps (เยอะกว่า Bitrate 4K บน Youtube อีก) แถมได้ เฟรมเรตสูงถึง 100 เฟรมต่อวินาที เยอะกว่าความจำเป็นที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน 4 เท่า
จุดเด่นที่ทำให้สายวิดิโอ ร้องกรี๊ดเลยก็คือ S-Log 3 ต้องเล่าก่อนว่า S-Log3 เป็น Picture Style ชนิดหนึ่ง ในงานวิดิโอมืออาชีพ การ Granding สี (การปรับแต่งสี) ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ วิดิโอทั่วไปก็เหมือน ไฟล์ JPEG ที่ไม่ค่อยจะปรับแต่งอะไรได้มาก ต้องทำให้เสร็จหลังกล้อง ปรับไป สีของไฟล์ก็จะไม่ค่อยสวย S-Log ก็คล้ายไฟล์ DNG ที่สามารถปรับโทนสีของภาพ/วิดิโอได้ ดีกว่า มีรายละเอียดมากกว่า ปรับแต่งสีได้กว้างกว่า ครับ โดยทาง Sony เครมว่าสามารถดึงสีของวิดิโอ / ไดนามิก ได้สูงถึง 14 Stops เยอะกว่า การถ่ายรูปด้วย Raw File อีกครับ
สุดท้ายที่โดดเด่นขึ้นมาเลยก็คือ การถ่ายวิดิโอแบบที่ย่อความละเอียดมาจาก 6K ย่อเป็น 4K ทำให้รายละเอียดดีขึ้นมาก การอ่านแบบเต็มพิกเซลโดยไม่ต้องใช้ Pixel Binning ทำให้ noise ไม่มากนักเวลาใช้ iso สูงๆ
ถ่ายได้ต่อเนื่องสูงสุด 307 ภาพ
แม้ว่ากล้อง Sony a6300 จะถ่ายต่อเนื่องถึง 11 fps แต่ปัญหาหลักๆ คือ ถ่ายไม่กี่วินาที ก็ช้าลง แต่กล้อง Sony a6500 สามารถถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 36 วินาที พร้อม AF/AE Tracking ทำให้ไม่พลาด ทุกการเคลื่อนไหว
- JPEG Extra fine L: 233 frames, JPEG Fine L: 269 frames, JPEG Standard L: 301 frames, RAW: 107 frames, RAW&JPG: 100 frame
โฟกัส 425 จุด แบบ 4D Focus แถมกินเลนส์นอกค่ายได้
Sony a6500 มาพร้อมกับ จุดโฟกัสแบบธรรมดา 425 จุด และ จุดโฟกัสแบบพิเศษ หรือ แบบเป็นกลุ่ม 179 จุด จุดเด่นไปกว่านั้น คือ สามารถกินเลนส์นอกค่ายได้หมด ไม่ว่าจะเป็น Canon, Nikon, Sigma, Tamron ที่โครตเจ๋งคือ สามารถใช้เลนส์ Leica ที่เป็นแบบโฟกัสหมุนมือ ทำเป็น Auto ได้ ที่ขาดไม่ได้ และ ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ เลนส์ Sony เอง ที่เป็น A-Mount (เลนส์ DSLR จาก Sony)
คุณภาพการประกอบที่เรียกว่ากล้องโปรได้แล้ว แถมเพิ่มปุ่ม Custom
ตัว Sony a6500 ใช้ Body เป็น Magnesium Alloy Body ทั้งตัว ทำให้กล้อง Sony a6500 สามารถกันละอองนำ้ ละอองฝุ่นได้ แถมเพิ่ม ปุ่ม Custom ทางด้านหน้า เพิ่มอีก 1 ปุ่ม Grip ใหญ่ขึ้น ทำให้ควบคุมได้ง่ายขึ้น
เซนเซอร์ / ระบบประมวลผล
ถึงแม้ว่า จะเป็น Bionz X เหมือนกันแต่ตัว Sony A6300 ก็ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยใช้ Copper Wiring รับแสงได้มากขึ้น รับข้อมูลได้มากขึ้น การจัดการ Noise ดีมากขึ้น โดยทั้งคู่สามารถดัน iso สูงสุดที่ 51200
ราคา
แม้ว่าจะยังไม่เปิดราคาในไทยยังเป็นทางการ แต่เมืองนอกราคาเปิดออกมาที่ $1400 หากเข้ามาไทยทีมงานคาดว่าราคาจะอยู่ที่ 54,990-56,990 บาทครับ สำหรับกำหนดขายในไทย”คาดว่า”จะเปิดในช่วงปลายปีนี้ หากมีข่าวอัพเดท ทีมงานจะแจ้งให้ทราบโดยด่วน
อื่นๆ
- Silent Shooting – เวลาถ่ายไม่มีเสียงกดชัดเตอร์
- Sony เครมว่า White Balances แม่นขึ้น
- เมนูรูปแบบใหม่
- Minimum Speed Shutter
- ถ่ายเป็น Raw 14 Bit ได้ภายละเอียดขึ้นแต่ยังไม่เป็น Uncompressed (ไม่บีบอัดเลย)
- Clean HDMI
- ถ่ายไปชาร์จไปได้
- ช่องเสียบไมค์โครโฟน แต่ยัง ไม่มีช่องเสียบหูฟัง
Q&A หลายคำถาม หลายคำตอบ
Q : เราเลือกชื้ออย่างไรดีสำหรับตระกูล a6000 series
A : ถ้าคิดว่าชื้อกล้องมาถ่ายเล่นงบไม่มาก แนะนำ a6000 แต่หากเพิ่มเงินขึ้นมาได้ แนะนำ a6300 เพราะได้โฟกัสที่เร็วกว่า คุณภาพที่ดีกว่า แต่ถ้าเน้นวิดิโอด้วย แนะนำขึ้นไป a6500
Q : ระหว่าง a6500 กับ a7II เลือกชื้อตัวไหนดี
A : ต้องดูตัวเองครับ ว่าใช้งานได้ด้านไหน ถ้าต้องการ เล็กเบา โฟกัสเร็ว วิดิโอ 4K ก็ต้องมา a6500 แต่ถ้าต้องการมิติของภาพ ระดับ Full Frame การควบคุมที่สะดวกรวดเร็วกว่าในบางจุด (ที่ไม่ใช่ระบบโฟกัส) a7II ยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
Q : คุ้มค่าคุ้มราคาไหมกับค่าตัว
A : ทีมงานมองว่าราคาค่อนข้างสูงไปนิดเมื่อเทียบกับราคาเมืองนอกครับ (จากที่สูงอยู่แล้ว) แต่หากเทียบกับตัวใกล้เคียงกัน ก็ไม่มีตัวไหนที่ทำได้เท่านี้ในราคาถูกกว่า
Q : คู่แข่งมีอะไรบ้าง
A : คู่แข่งตัวเล็ก ก็คือ Fujifilm X-T2 แต่ถ้าเทียบไป DSLR ก็จะมี Canon 7D Mark II และ Nikon D500 ก็ลองไปเลือกดูตาม System ที่ชอบครับ
Q : มีข้อเสียอะไรบ้างที่ยังไม่ได้พูด
A : แม้ว่ากล้อง Sony a6500 จะรัวได้ถึง 11 fps และ ถ่ายได้สูงสุดถึง 307 ภาพ แต่ความเร็วการ์ดที่ตัวกล้องสามารถเขียนเข้าไปได้ยังเป็น UHS-I สูงสุด 95 MB/s (หรืออาจจะตำ่กว่า) ทำให้เวลารัวยาวๆ อาจจะต้องใช้เวลาหลัก นาทีในการเขียนข้อมูลลงการ์ด และ แบตเตอรี่ ที่ยังไม่มีการคอนเฟิร์มว่าอึดขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่อึดขึ้นก็น่าเป็นห่วงสำหรับการถ่ายภาพกีฬา กับ วิดิโอ 4K อาจจะทำให้หมดระหว่างงาน แถมไม่มี Grip แบบ Offical ออกมาด้วย
โดยรวมแล้วกล้อง Sony a6500 เป็นกล้องที่ออกมาแก้คำบ่นจาก User ที่ไม่มีใน a6300 ทั้งหมดครับ อย่าง กันสั่น 5 แกน บัฟเฟอร์น้อย ครับ หากทีมงานได้จับเมื่อไหร่ หรือมีข้อมูลเพิ่มเติม และ หากใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ด้านล่าง หรือ เฟสบุ๊ค และที่ ทวีตเตอร์ ครับ