หลายคนน่าจะสนใจ Apple Watch กันอยู่ไม่น้อย แต่ก็มีหลายคน สบสนว่าจะเอารุ่นไหนดี มีหลายรุ่นเหลือเกิน วันนี้ทางทีมงาน จะมาเจาะลึกรายละเอียดแต่ละรุ่นว่าเป็นอย่างไร ไปดูกันครับ
Apple Watch มีทั้งหมด 3 รุ่นหลัก โดยจะแตกต่างตามวัสดุของตัวเรือน Apple Watch สี ชิ้นส่วนต่างๆ พร้อมยังมีรุ่นย่อยจากรุ่นหลักกว่าถึง 38 รุ่นย่อย โดยแต่จะจะมีความแตกต่างนอกจากวัสดุ ตัวเรื่อนแล้ว ยังต่างกันที่สายอีก ด้วย
สเปค Apple Watch โดยละเอียด
- จอภาพ Retina Display แบบ Force Touch
- ปุ่ม Digital Crown
- CPU Apple S1
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และไจโรสโคป
- ลำโพงและไมโครโฟน
- WiFi 802.11 a/b/g/n 2.4 GHz
- Bluetooth 4.0
- กันนำ้มาตรฐาน ipx7
Apple Watch Sport
ตัว Apple Watch Sport นั้นจะมีตั้งหมด 22 รุ่นย่อย โดยแต่ละรุ่นย่อยนั้นจะต่างกันในส่วนของสีสาย และสีตัวเรือน พร้อมมีให้เลือก 2 ขนาด ให้เลือก
รายละเอียด Apple Watch Sport
- มี 2 ขนาดในทุกสาย
- ตัวเลือนอลูมิเนียม
- กระจก iron-X
- สาย Sport (สามารถชื้อเปลี่ยนเองได้ภายหลัง)
ราคา Apple Watch Sport
- Apple Watch Sport ขนาด 38 mm ราคา 11,500 บาท ในทุกสีและสาย
- Apple Watch Sport ขนาด 42 mm ราคา 13,500 บาท ในทุกสีและสาย
Apple Watch (เฉยๆ)
Apple Watch นั้นจะเป็นตัวเรือน สแตนเลส มีให้เลือกทั้งหมด 20 รุ่นย่อย แบ่งตามรูปแบบสายไม่ว่าจะเป็น สาย Sport หนัง Loop และ สายเหล็ก โดยในตัวรุ่นแพงสุดจะเป็นตัวเรือนสี เทา ในตัวอื่นจะเป้นตัวเรือนสีเงิน
รายเอียด Apple Watch
- มี 2 ขนาด มีบางสายจะมี 2 ขนาด บางสายมีแค่ 38 mm หรือ 42 mm ตามความเหมาะสม
- ตัวเรือน สแตนเลส
- กระจก แซฟไฟร์
- สาย ให้เลือก 8 แบบ (สามารถชื้อเปลี่ยนเองได้ในภายหลัง)
ราคา Apple Watch
- Apple Watch สาย Sport สี ดำตัวเรือนเทา ขนาด 38 mm ราคา 20,500 บาท
- Apple Watch สาย Sport สี ดำ ตัวเรือนเทา ขนาด 42 mm ราคา 22,500 บาท
- Apple Watch สาย Woven Nylon สีเทาเพิร์ล ขนาด 38 mm ราคา 20,500 บาท
- Apple Watch สาย Woven Nylon สีเทาเพิร์ล ขนาด 42 mm ราคา 22,500 บาท
- Apple Watch สาย Classic Buckle สีนำ้ตาลอานม้า ขนาด 38 mm ราคา 24,500 บาท
- Apple Watch สาย Classic Buckle สีนำ้ตาลอานม้า ขนาด 42 mm ราคา 26,500 บาท
- Apple Watch สาย Classic Buckle สีแดง ขนาด 38 mm ราคา 24,500 บาท
- Apple Watch สาย Classic Buckle สีมารีนบลู ขนาด 42 mm ราคา 26,500 บาท
- Apple Watch สาย Milanese Loop สีเงิน เรือนเงิน ขนาด 38 mm ราคา 24,500 บาท
- Apple Watch สาย Milanese Loop สีเงิน เรือนเงิน ขนาด 42 mm ราคา 26,500 บาท
- Apple Watch สาย Milanese Loop สีดำ เรือน เทา ขนาด 38 mm ราคา 24,500 บาท
- Apple Watch สาย Milanese Loop สีดำ เรือน เทา ขนาด 42 mm ราคา 26,500 บาท
- Apple Watch สาย Modern Buckle สีเหลือง แมรี่โกลด์ / ฟ้าพลูเจย์ ขนาด 38 mm ราคา 28,500 บาท
- Apple Watch สาย Leather Loop สี ขาว / สตอร์มเกรย์ ขนาด 42 mm ราคา 28,500 บาท
- Apple Watch สาย Link Bracelet ขนาด 38 mm ราคา 35,500 บาท
- Apple Watch สาย Link Bracelet ขนาด 42 mm ราคา 37,500 บาท
- Apple Watch สาย Link Bracelet สีเทา ขนาด 38 mm ราคา 39,500 บาท
- Apple Watch สาย Link Bracelet สีเทา ขนาด 42 mm ราคา 41,500 บาท
Apple Watch Edition
Apple Watch Edition นั้นถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ราคาที่สูงที่สุด เท่าที่ Apple เคยขายได้ตลาด Consumer โดย Apple Watch Edition นั้นมาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสแล้ว ติดทองคำ 18 K เข้ามาด้วย ทำให้ราคาสูงเป็นพิเศษ สำหรับ Apple Watch Edition นั้นมาพร้อม 8 รุ่นย่อยเริ่มราคาที่ 395,000 บาท
รายละเอียด Apple Watch Edition
- มี 2 ขนาดตัวเรือน แต่ละตัว มีรายเอียดเกี่ยวกับตัวเรือนที่แตกต่างกันออกไป
- ตัวเรือน สเตนเลส พร้อมทองคำ 18k
- กระจก แซฟไฟร์
- มีแท่นชาร์จมาให้ในกล่อง
- ตัวเรือนมีสี Yellow Gold และ Rose Gold
ราคา Apple Watch Edition
- Apple Watch Edition สี Roes Gold พร้อมสาย Sport สีขาว ขนาด 38 mm ราคา 395,000 บาท
- Apple Watch Edition สี Roes Gold พร้อมสาย Sport สีขาว ขนาด 42 mm ราคา 470,000 บาท
- Apple Watch Edition สี Yellow Gold พร้อมสาย Sport สีดำ ขนาด 38 mm ราคา 395,000 บาท
- Apple Watch Edition สี Yellow Gold พร้อมสาย Sport สีดำ ขนาด 42 mm ราคา 470,000 บาท
- Apple Watch Edition สี Roes Gold พร้อมสาย Modern Buckle สี เทาโรสเกรย์ ขนาด 38 mm ราคา 660,000 บาท
- Apple Watch Edition สี Yellow Gold พร้อมสาย Modern Buckle สี แดง ขนาด 38 mm ราคา 660,000 บาท
- Apple Watch Edition สี Yellow Gold พร้อมสาย Classic Buckle สี ดำ ขนาด 42 mm ราคา 585,000 บาท
- Apple Watch Edition สี Yellow Gold พร้อมสาย Classic Buckle สี มิดไนท์บลู ขนาด 42 mm ราคา 585,000 บาท
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องนั้นจะมี สายชาร์จยาว 2 เมตร, Adapter กำลังไฟ 5 W สาย Apple Watch สำรอง และที่สำคัญ คู่มือ
ราคา อุปกรณ์เสริม Apple Watch
- สายแบบ Sport ราคา 1,900 บาท (มีให้เลือก 22 สี)
- สายแบบ Woven Nylon (เนื้อผ้า) ราคา 1,900 บาท (มีให้เลือก 7 สี)
- สายแบบ Milanese Loop ราคา 5,900 บาท (มีให้เลือก 2 สี)
- สายแบบ Classic Buckle ราคา 5,900 บาท (มีให้เลือก 9 สี)
- สายแบบ Leather Loop ราคา 5,900 บาท (มีให้เลือก 6 สี) (เฉพาะ 42mm)
- สายแบบ Modern Buckle ราคา 9,500 บาท (มีให้เลือก 7 สี) (เฉพาะ 38 mm)
- สายแบบ Link Bracelet ราคา 16,900 บาท (มีให้เลือก 2 สี)
- ชุดสายแบบ Link Bracelet 6 ชิ้นราคา 1.900 บาท
- สายชาร์จความยาว 1 เมตร ราคา 1,090 บาท
- สายชาร์จความยาว 2 เมตร ราคา 1,490 บาท
- หัวชาร์จราคา 690 บาท
เป็นที่น่าเสียดายที่ Apple ยังไม่มีรายละเอียดของ อุปกรณ์เสริมมากนัก แม้กระทั้ง Apple care ก็ยังไม่มีราคาออกมาให้เห็นสำหรับใครที่สนใจ Apple Watch ก็คงต้องติดตามราคาและอุปกรณ์เสริมกันต่อไปว่าจะมีอะไรเด็ดๆ มาให้ชื้อใช้กันรึเปล่า
แบตเตอรรี่ของ Apple Watch ถือว่าเป็นเรื่องกังวลมากของหลายคนเพราะ Apple เครมว่าสามารถใช้งานได้ 18 ชม เท่านั้นมาดูกันว่า 18 ชมนี้ทำอะไรได้บ้าง
- คุยโทรศัพท์ได้นาน 3 ชั่วโมง
- ฟังเพลงได้ 6 ชั่วโมงครึ่ง
- ใช้ออกกำลงักายได้ 7 ชั่วโมง
- ดูนาฬิกาได้ 240 ครั้ง (5 ครั้งใน 1 ชั่วโมง และ เปิดครั้งละ 4 วินาที)
- เปิดใช้งานได้สูงสุด 72 ชั้วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน
สำหรับการชาร์จนั้นจะอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งครับ นับตั้งแต่ 0- 100 % เต็มหรือถ้าลืมชาร์จก็สามารถชาร์จแบบ Quick Charge ได้ 80% ภายใน 90 นาที
ตัว Apple Watch เองนั้น ก็มีฟีเจอร์เด่นๆอยู่ไม่น้อยเพื่อช่วยการทำงานระหว่างอุปกรณ์ของ Apple ทั้งหมด ง่ายขึ้นอย่างเช่น เปิดเพลง, เปลี่ยนเพลง, เป็นที่กดชัตเตอร์ได้เพื่อถ่ายรูปได้, ตอบกลับข้อความไว้ได้ (จากข้อความที่ตั้งไว้), การใช้แผนที่แบบ turn by turn เวลาเดินบนถนน แม้กระทั่งการจ่ายเงินผ่านตัวนาฬิกาแทน โดยในอนาคต คาดว่าจะมี ฟังชั่น แอพอื่นอีกมากมาย ที่จะช่วยให้การทำงานบน Apple device โดยรวมสะดวกยิ่งขึ้น
สำหรับฟีเจอร์บน Apple Watch ทั้งหมดนั้น ตั้งแต่รุ่น Apple Watch Sport จนถึงรุ่น Apple Watch Edition เป็น ชอร์ฟแวร์เดียวกันหมด ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องความน้อยใจของคนที่ชื้อรุ่นถูกกว่าอย่างแน่นอนครับ Apple Watch นั้นรองรับการเชื่อมต่อ iPhone 5, 5C ,5S , 6, 6 Plus และ iPhone ที่จะมาในอนาคตทั้งหมด
ตัว Apple Watch นั้นจะเปิดขายใน Apple Online Store วันที่ 17 กรกฏาคม เป็นต้นไป ส่วน ตามร้านนั้นมีจำหน่ายใน iStudio Power buy และ Power Mall บางสาขา