เปิดตัวกันมาแล้ว หลังจากที่ Fujifilm ประกาศออกมากับ Fujifilm X-Pro 3 กล้อง Mirorrless เซ็นเซอร์ขนาด APS-C สไตล์ เรนจ์ไฟน์เดอร์ ที่มีราคาสูงที่สุดในค่าย โดยรอบนี้ต้องบอกเลยว่า Fujifilm ดีไซน์มาแปลกมากๆ เพราะได้นำจอด้านหลังขนาดใหญ่ออกไป แทนที่ด้วยจอแสดงค่าการถ่ายแทน (ทั้งนี้ถ้าอยากได้จอใหญ่ต้องพับลงมา (tilt-down) เพื่อดูรูปภาพ เหมือนกล้องฟิล์ม
Fujifilm X-Pro 3 ดีไซน์โดยรวบนั้นแทบจะเหมือนกับ Fujifilm X-Pro 2 สำหรับด้านหน้าแต่สิ่งที่แตกต่างโดยชิ้นเชิงก็คือดีไซน์ด้านหลัง ที่ใส่จอ LCD ด้านหลังขนาดเล็ก ไว้แสดงว่าเราตั้งค่าอะไรอยู่ ทั้ง Speed Shutter, รูรับแสง, ISO และสีฟิล์มที่เลือกใช้ ณ ขณะนั้น สิ่งที่เด็ดก็คือ เมื่อเราดึงด้านหน้าออกมา ก็จะเป็นจอคุณภาพสูงที่ใช้งานปกติได้
สำหรับตัวบอดี้นั้นจะเป็นไทเทเนี่ยม มีให้เลือก 3 สี นั้นก็คือ Black, Durable Black และ Dulable Silver ซึ่งตัว Dulavle นั้นจะทำตัวสีของตัวบอดี้ทนทานเป็นพิเศษ ตัวกล้อง X-Pro 3 ได้มีช่องมองภาพมีคุณภาพที่สูงขึ้น ฟังก์ชั่นเยอะขึ้น และ Film Simulation ที่ใส่เข้ามาใหม่นั้นก็คือ Classic Nagative
ราคาของ Fujifilm X-Pro3 อยู่ที่ $1,799 หรือปมาณ 55,000 บาท สำหรับสีดำ และ $1999 หรือประมาณ 61,000 บาท สำหรับสี DURA black กับ DURA silver เริ่มวางจำหน่าย 28 พฤศจิกายน
สเปค Fujifilm X-Pro 3
- เซ็นเซอร์ขนาด APS-C X-Trans CMOS 4 ความละเอียด 26.1 ล้านพิกเซล
- ระบบประมวลผล X-Processer Pro
- ISO 160-12,800 สามารถขยายได้ 80-51200
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 11 FPS และสูงสุด 30 FPS เมื่อใช้ E-Shutter และ Crop Mode
- Video DCI4K นานสูงสุด 15 นาที
- หน้าจอ OVF และ EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล
- หน้าจอความละเอียด 1.62 ล้านพิกเซล พร้อมพับลงได้ 180 องศา
- Film Simulation ใหม่ Classic Negative
- แบตเตอรี่รุ่น NP-W126S สามารถใช้ได้ 370 ภาพ เมื่อใช้ EVF, 440 ภาพเมื่อใช้ OVF
- บอดี้ขนาด 140.5 x 82.8 x 46.1 mm (W x H x D)
- น้ำหนัก 497 กรัม รวมแบตเตอรี่
- รองรับ SD Card ความเร็วระดับ UHS-II แบบ Dual-Slot
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C