หลายคนคงมีคำถามว่า ทำไม MacBook มันแพงกว่า Notebook/Ultrabook ทั่วไปพอสมควรวันนี้เรามาดูกันครับ ว่าทำไม Mac ถึงแพงกว่า Notebook/Ultrabook ทั่วไป
เรามาทำความเข้าใจ ชี่รีย์ของ MacBook กันก่อน โดยปัจจุบันจะแยกเป็น 3 ชี่รี่ย์หลักๆ คือ MacBook, MacBook Air, MacBook Pro ชึ่งแต่ละตัวก็จะมีกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันไปดังนี้ครับ
- MacBook – เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานทั่วไป ที่ทำงานทั่วไป ชอบนำไปใช้งานข้างนอก โดยไม่คำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้งาน เน้นเบาไว้ก่อน
- MacBook Air – เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการ พอร์ทครบ เหมือน Notebook/Ultrabook ทั่วไป คำนึกถึงความเบามากกว่าประสิทธิภาพ รวมถึงราคาที่ไม่แพง
- Macbook Pro – เหมาะสำหรับผู้ใช้งานหนัก ทำรูป ตัดต่อวิดิโอ มีพอร์ทครบ คำนึงถึงเรื่องนำ้หนักเป็นสิ่งสุดท้าย (จริงๆ หากนับกับประสิทธิภาพก็ไม่ได้หนักมาก)
Mac ไม่ได้แพงแต่ราคาสูง
Mac เป็นคอมพิวเตอร์หากเทียบกับตัวอื่นๆ ถือว่าราคาสูงไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเอื้อมถึงได้ แต่หากเทียบกับ Notebook ทั่วไปแล้วด้าน วัสดุ ความเสถียร ถือว่าไม่แพง ยิ่งเทียบระดับเดียวกันแล้ว ที่ทุกคนไม่เคยสนใจ ถือว่าไม่แพงอย่างที่คิด ยกตัวอย่าง Surface Pro 4 แรม 4 GB SSD 128 GB ราคา 39,900 บาท ยังไม่รวม คีย์บอร์ดที่ 4,590 บาท เมื่อเทียบกับ MacBook Air แรม 4 GB SSD 128 GB ราคา 37,900 บาท หรือหากเทียบให้ตรงรุ่นก็ต้องเป็น Surface Book แรม 8 GB SSD 256 GB ไม่มีการ์ดจอแยก ราคา $1,699 ส่วน Macbook Pro retina แรม 8 GB SSD 256 GB ราคา $1,499 (ผมเทียบกับ $ us เพราะ ราคา Surface book ในไทยยังไม่ออกมา) ชึ่งเทียบกับแล้ว ถือว่าไม่แพงเลย
Mac ไม่ได้มาเพียงแค่เครื่อง
Mac นั้นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ macOS ที่ปรับให้เข้ากับเครื่องนั้น ๆ รวมถึงชอร์ฟแวร์ที่มี สร้างมาเพื่อกันและกัน
Mac ไม่ต้องติดตั้ง Driver
รำคาญไหมครับ เวลาที่ล้างคอม แล้วต้องมาติดตั้ง Driver มันเสียเวลาพอสมควร สำหรับ Mac เมื่อติดตั้ง macOS ไว้บนเครื่องแล้วคุณไม่จำเป็นต้อง โหลด / ติดตั้ง Driver ใด ๆ เพราะมันทำเสร็จพร้อมกับตอนติดตั้ง
macOS มีความเสถียรกว่า Windows มาก
ผมใช้คำว่าเสถียรกว่า ไม่ได้บอกเสถียร 100% เพราะทุกอย่างมีผิดผลาดทั้งสิ้น ปัญหาน้อยกว่า ไม่มีต้องระวัง Baidu ไม่ต้องล้างเครื่องใหม่ ๆ บ่อย ๆ เพื่อให้เสถียร
macOS สามารถดึงประสิทธิภาพได้มากกว่า Windows
เนื่องด้วย เครื่อง Mac ไม่ได้มีร้อยพ่อพันแม่ ฉะนั้น Software มีความเข้ากันได้กับ Hardware เป็นอย่างดี ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก รวมถึงยังมีเฉพาะทางที่มากกว่าด้วย
Mac มาพร้อมกับ ชอร์ฟแวร์ฟรี ที่ใช้งานได้จริง ระดับหนึ่ง
เมื่อชื้อเครื่องขึ้นมา จะพบว่า โปรแกรมที่แถมมากับ OS อย่างเช่น Garage Band, iMovie, Photo, Pages, Numbers, Keynote มีประโยชน์และสำหรับผู้ใช้งานเบื้องต้นสามารถใช้งานโดยไม่ต้องชื้อโปรแกมเสริมเพิ่มอีกด้วย
Trackpad ที่ดีมากับชอร์ฟแวร์ที่ใช้งานเข้ากัน
Trackpad ของ Mac เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ได้ เพราะทั้ง เสถียร แม่นยำ แถมในรุ่นใหม่ ๆ ยังรับรู้แรงกดได้อีกต่ากหาก เรียกได้ว่าเจ๋งสุดๆ
ดีไชน์ไม่ตกรุ่น
MacBook เมื่อเปลี่ยนแต่ละรุ่นก็จะไม่เปลี่ยนดีไชน์ เปลี่ยนแค่ สเปคภายในให้แรงขึ้นกว่า เดิม ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะใช้ Mac รุ่นย่อยไหน ก็จะพบควาวมคลาสสิกเหมือนเดิม
มีไวรัสน้อยกว่า Windows
เนื่องด้วย Mac มีคนใช้น้อยกว่า ทำให้ผู้ผลิต ไวรัส ไม่ค่อยนิยมทำกัน เพราะจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยมีนัก เมื่อลงทุนไป แต่อย่างไรแล้ว มันก็ยังมีไวรัสบางชนิดที่อยู่ในแมค แต่มันก็น้อยขนาดที่เราไม่ต้องกังวลใด ๆ เลย
แม้ว่า MacBook จะมีข้อดีมากมาย แต่เนื่องด้วยมันเป็นระบบปฏิบัตการที่คนใช้น้อยกว่า Windows มหาศาล ทำให้มีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างเช่นกันลองไปดูกันครับ
ราคาสูง
น่าจะเป็นข้อที่เห็นได้ชัดมากที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับสเปคต่อสเปค ถึงแม้ว่า MacBook จะแพงกว่าแต่ในขณะที่บางคนไม่ได้จำเป็นที่จะต้องมี นำ้หนักเบามาก หรือ วัสดุที่ดี ก็อาจจะเกินความจำเป็นของแต่ละคน
เกมไม่มีให้เล่นมากนัก
แน่นนอครับ เกมส่วนใหญ่ จะชื้อฝั่ง PC เพราะคนใช้เล่นเกมเยอะกว่า และ ฝั่ง PC ด้านสเปคคุ้มค่า คุ้มราคามากกว่า
ชอร์ฟแวร์ให้เลือกน้อย + แพง
แม้โปรแกมฝั่ง Mac จะมีความเสถียรมาก แต่ราคาก็ข้องข้างสูงกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะโปรแกม เฉพาะทาง อย่างเช่น ค้นหาคลื่นความถี่สัญญาณ Wifi แต่ละตัวราคาไม่ใช่ย่อยเลย
แม้ MacBook จะเป็น คอมพิวเตอร์ ราคาสูงที่ขายได้อันดับต้น ๆ ของตลาด มีข้อดีมากมาย แต่ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องนั้นไม่ได้ ไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่ละเครื่อง คนละกลุ่มเป้าหมาย ต้องลองเลือกกันเอาเองแหละครับ ว่าตัวเองเหมาะกับฝั่ง Mac หรือ Windows