Canon EOS R3
หากพูดถึงกล้องตัวท็อปของแคนอนร้อยทั้งร้อย ก็จะพูดถึงกล้อง Canon EOS 1DX Series ที่บอกได้เลยว่าเป็นกล้องคุณภาพ ที่โหดสุดในทุกอริยาบท โดยเฉพาะระบบโฟกัสที่เยี่ยมยอดมาตลอด แต่นั้นก็คืออดีตที่ผ่านไป แม้จะไม่นานนัก แต่วันนี้ก็มีตัวท็อปในอีกฝั่ง หรือฝั่งมิลเลอร์เลสที่บอกเลยว่าดีและโหดไม่ต่างจาก 1DX Series เลย
สเปก Canon EOS R3 แบบคร่าวๆ
- ชิปประมวลผลภาพ Digic X
- เซนเซอร์ Stacked CMOS แบบฟลูเฟลม 24.1 MP
- ระบบออโต้โฟกัส ออโต้โฟกัสแบบเฉพาะจุด (Spot AF), ออโต้โฟกัสแบบจุดเดียว (1-point AF), ออโต้โฟกัสแบบขยายพื้นที่รอบๆ (Expand AF area – บน / ล่าง / ซ้าย / ขวา หรือรอบๆ), ออโต้โฟกัสแบบโซนยืดหยุ่น (Flexible Zone AF 1 / 2 / 3), ออโต้โฟกัสแบบพื้นที่ทั้งหมด (Whole area AF)
- การควบคุมด้วยดวงตา (Eye Control)
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) 5 แกน
- หน้าจอ LCD ระบบสัมผัสแบบปรับหมุนได้ ขนาด 3.2 นิ้ว ให้สีแบบ TFT ความละเอียด 4.15 ล้านจุด โดยประมาณ
- วิดีโอ Raw 6K 60P, 4K DCI, 4K UHD
- Full HD
- SD Card UHS-II 1 ช่อง + CF Express Type-B
- แบตเตอรี่ LP-EL19
- น้ำหนัก 1,015 กรัม
Body – บอดี้
บอดี้ของ Canon EOS R3 เป็นบอดี้แบบแมกนีเชี่ยมอัลลอย ที่เป็น UNIBODY น้ำหนักเพียงแค่ 1,015 กรัม เท่านั้น ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าตระกูล 1DX ราวๆ 30% ในขณะที่ขนาดบอดี้เล็กลงอีก 15% แต่ที่สำคัญคือการจับถือเทียบกับ 1DX ไม่ด้อยลงไปเลย โดยรวมการจับต้องบอกว่าสมเป็นบอดี้แบบเต็มๆมากครับ จับถนัดไร้รอยต่อ และมีน้ำหนักที่เบากว่าขนาดตัวกล้อง
ด้านบนก็จะมีปุ่มในการปรับโหมดต่างๆ หน้าจอ OLED ที่เราสามารถเปิด-ปิดไฟหน้าจอได้ ปุ่มเหมือนโหมดที่น่ารัก และดูอินเทรน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ M-FN ที่เอาไว้เน้นปรับพวกระบบโฟกัส ทำให้การใช้งานสามารถทำได้รวดเร็วดั่งใจ สมเป็นกล้องโปรเลยทีเดียว
ด้านหลังของตัวกล้องอย่างที่บอกไป จะเป็นจุดติดตั้งของหน้าจอสัมผัสที่เราสามารถฟลิบได้รอบทิศทาง แล้วก็ปุ่มสาระพัด ที่เราสามารถ Custom ได้ดั่งใจเรา แต่ผมขอพูดในจุดที่ผมชอบที่สุด ณ กันครับ นั้นก็คือ Smart Controller เป็นปุ่มที่สามารถควบคุมการทำงานได้โดยการสัมผัส หลักๆที่ผมใช้ก็คือตัวขยับจุดโฟกัสนั้นแหละครับ เรียกได้ว่าสะดวกต่อการใช้งานมากๆ
ปุ่มต่างๆของตัว Canon EOS R3 จะเป็นปุ่มเรีองแสงแบบเดียวกับ Canon EOS 1DX Mark III
จุดเด่นที่ผมมองว่าสาย Hobby น่าจะชอบคือหน้าจอแบบฟลิบได้เนี่ยแหะครับ เพราะในการใช้งานจริงมันจะช่วยทำให้คุณสะดวกขึ้นมากๆเวลาใช้งานจริงทั้ง Landscape และ Macro ส่วนสายจริงจังอาจจะกังวลเรื่องความแข็งแรงในส่วนนี้แต่เท่าที่ลองจับถือว่าแข็งแรงมากครับ
พอร์ตที่ให้มาตัวนี้ก็ต้องบอกว่าสมเป็นตัวโปรจริงๆครับ เรียกได้ว่าควรมีอะไรก็มีหมด ตั้งแต่ช่องเสียบแลน ไมค์ หูฟัง แฟลช HDMI และช่องจำเป็นในยุคนี้คือ Type-C ที่เราสามารถชาร์จกล้องผ่าน PowerBank ได้!
ช่องใส่การ์ดคู่ที่ออกแบบให้สำหรับทั้งโปร และคนทั่วไป เพราะโดยปกติแล้วกล้องรุ่นท็อปมากๆจะมักใส่แค่ CF Express มาให้ แต่ในกล้องตัวนี้จะรองรับ SD Card ในระดับมาตรฐาน UHS-II ซึ่งจริงๆแล้วการทำงานระดับนี้ก็ครอบคุมการทำงานมากกว่า 70% ของตัวกล้องแล้ว เว้นแต่ฟังก์ชั่นที่โหดมากๆ อย่างการถ่ายวิดีโอ Raw ก็อาจจะต้องใช้ตัว CX Express ในการโอนถ่ายข้อมูลที่รองรับความเร็วสูงถึง 2 Gbps กันเลยทีเดียว
แบตเตอรรี่จของตัว Canon EOS R3 ให้มาเป็นรุ่น LP-E19 (10.8V/2700mAh) เช่นเดียวกับกล้อง EOS-1D X Mark III ซึ่งสามารถถ่ายภาพได้ถึง 860 ภาพ ซึ่งทนไม่ทน ผมขอ No Comment เพราะได้ลองแค่ไม่กี่นาที เท่านั้น
ทดลองใช้งานเบื้องต้น
เรื่องแรกที่ผมอยากจะพูดถึงคือการจับถือของ EOS R3 อย่างที่ทุกคนรู้แหละครับ Canon EOS R3 นั้นเป็นกล้องที่มีขนาดใหญ่กว่ากล้องทั่วไป และมีขนาดน้ำหนักที่มากกว่ากล้องทั่วไปอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าคุณเคยจับกล้อง UNIBODY ตัวนี้ถือว่าเป็นกล้องใหญ่ที่มีน้ำหนักเบา กล้องกว่ากล้องรุ่นท็อปๆ แล้วใส่กริ๊ปอีกด้วย อันนี้ต้องยกประโยชน์ให้การออกแบบของทาง Canon เขาเลย
การควบคุมหลักตัวกล้องด้วยความที่ตัวกล้องเป็น UNIBODY ทำให้ปุ่มหลายๆปุ่ม จะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ทำให้เราสามารถทำงานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนแบบสะดวกมากๆ และปุ่มต่างๆ ก็สามารถทำงานได้ครบสุดๆ
Eye Control เวิร์คไหม?
สำหรับผมคนก็ต้องบอกว่ามันสามารถใช้งานได้ ถามว่าดั่งใจไหม ก็ต้องบอกว่ายังครับ ด้วยความไม่คุ้นชินของตัวกล้อง แต่จากที่ได้ลองเทสไม่นานก็พบว่ามันสามารถคอนโทรลไปได้ในฝั่งตามที่ต้องการจริงๆ แต่ดีเทลการโฟกัสก็อาจจะไม่ได้ตามใจเราขนาดนั้น เช่นเราต้องการให้จุดโฟกัสลงมาอีกนิดก็อาจจะทำไม่ได้ ทั้งนี้ก็อาจจะต้องใช้ความคุ้นชินสักเล็กน้อย
มาพูดถึงระบบโฟกัสต้องขอออกตัวก่อนว่ายังไม่ได้ลองจริงจัง แต่ถ้าเอามาตรฐาน EOS R5 ที่เคยเล่น บอกเลยว่าโหดสุดๆครับ และตัวนี้เขาแจ้งว่าโหดยิ่งกว่า ซึ่งเรายังไม่ได้มีสถานการณ์ที่ได้ลองกันจริงๆ อันนี้ก็ต้องบอกว่าขอไว้เทสกันในรีวิวเต็มๆ
แต่ถ้าพูดถึงการถ่ายภาพต่อเนื่องกันบ้าง อันนี้เป็นสิ่งที่ได้ลองใช้ตลอดทั้ง Seesion ก็ต้องบอกเลยว่าโหดจริงๆ ไม่อิงนิยายครับ สามารถดูได้จากคลิปด้านล่าง
ภาพตัวอย่างเจ้าตัว Canon EOS R3
Canon EOS R3 + RF 50 mm f/1.2 LCanon EOS R3 + RF 50 mm f/1.8 STM Canon EOS R3 + RF 50 mm f/1.8 STM Canon EOS R3 + RF 50 mm f/1.8 STM Canon EOS R3 + RF 600 mm f/11 STM Canon EOS R3 + RF 50 mm f/1.8 STM
แรกสัมผัส Canon EOS R3 กล้องเทพ ที่ไม่เหมาะกับเรา!
Canon EOS R3 ขอย้ำอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นกล้องที่ผมได้จับไม่ถึงชั่วโมง แต่ผมก็กล้าพูดว่าเป็นกล้องที่สามารถทำได้ดีในหน้าที่ของมัน นั้นก็คือใส่เลนส์ใหญ่ๆ ถ่าย Sport ถ่ายกีฬา หรือถ่ายคนแข่ง ด้วยระบบโฟกัสของมันที่มีให้หลากหลาย Eye-Control ที่เจ๋งมากๆ และตัวไฟล์ที่ทำออกมาได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ในราคาราว 2 แสนต้นๆ (แม้ผมจะมองว่าราคาโหดไปหน่อยนะ เทียบกับคู่แข่ง) ที่ในราคาไล่ๆกันให้ Pixel กันในระดับ 50 MP +- กันหมดแล้ว
ทั้งนี้ใครที่ใช้ไม่ถึง (แบบผม) ผมมองว่า EOS R5 หรือ EOS R6 ก็เป็นกล้องที่ดูคุ้มค่ากว่าในแง่ Value ได้ 20 FPS Pixel ก็ตามีราคาที่จ่ายไป ที่ต้องบอกว่าทั้ง 2 ตัวหลังที่พูดมาเหลือกินเหลือใช้แล้วครับ ลองคำนวณดูครับว่าเราต้องใช้งานกล้องที่โหดระดับนี้จริงๆไหม?
เรื่องที่ประทับใจแล้วอยากบอกต่อ
- Smart Controller
- การจับถนัดและการควบคุม