ตอนนี้ทาง Canon ก็ได้เริ่มนำกล้อง Canon EOS R5 และ Canon EOS R6 ไปวางตามร้านกล้องต่างๆในประเทศไทยแล้ว วันนี้ทีมงานก็ไม่พลาดที่จะเดินทางไปถ่ายพรีวิวเจ้าตัว Canon EOS R5 และ Canon EOS R6 ให้ชมกัน
ดีไซน์ตัวกล้อง Canon EOS R5 และ Canon EOS R6 สิ่งนั้นต้องบอกว่าดีไซน์ใกล้เคียงกันมาก เป็นดีไซน์แบบ SLR เหมือน EOS R ที่เปิดตัวมาก่อนหน้าสักพักใหญ่ บอดี้ทั้ง 2 รุ่นเป็นแมกนีเชียมอัลลอย ให้ความแข็งแรงทนทานใกล้เคียงกัน
ทั้ง 2 ตัวสามารถปิดม่านชัตเตอร์ได้ตามภาพด้านบน ไว้ป้องกันฝุ่นละออง EVF ขนาดใหญ่เต็มตา สว่างใสทั้งคู่ แต่ R5 จะมีความละเอียดที่มากกว่า หน้าจอพับได้รอบทิศทางตามสไตล์ Canon หน้าจอสัมผัสสื่นเหมือนสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบัน ใช้งานง่าย แต่ก็มีฟังก์ชั่นลึกๆ ไว้ให้ใช้งานหากต้องการ
Canon EOS R6
ด้านบนให้ความแตกต่างพอสมควร ปุ่มเปิด-ปิดอยู่ด้านซ้ายตัวกล้องเช่นเคย, มี Dials ด้านบน ปุ่มฟังก์ชันให้เลือกใช้งาน ปุ่มอัดวิดีโอรวมไปถึง HotSoe แต่ที่แตกต่างกันนั้นก็คือหน้าจอ Top LED ด้านบน ปุ่มเปลี่ยนโหมดก็จะเปลี่ยนเป็นใน Dials
การเข้าโหมดวิดีโอนั้นใน EOS R5 เราต้องกด Mode ด้านบน มันจะเป็นการปรับโหลดภาพนิ่งทั้งหมด และกดปุ่ม Info อีกครั้งก็จะปรับเป็นโหมดวิดีโอ เราจึงใช้สามารถเข้าสู่ Mode วิดีโอได้เต็มรูปแบบ
หน้าจอหน้าหลังเป็น 3.2 นิ้วทั้งคู่ คมชัดสวยงาม อันดับต้นๆในกล้องถ่ายภาพเลยทีเดียว มี Joystick เสียที ทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนจุดโฟกัส แต่ใครที่อยากจิ้มบนหน้าจอ ก็ทำได้เช่นเคย, Wheel Dials ก็กลับมาอีกครั้ง คนใช้ Canon DSLR มาน่าจะชื่นชอบมากๆ ส่วนปุ่มอื่นๆก็เหมือนกล้อง Canon ทั่วไป
อีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างกับเจ้าตัว Canon EOS R5 และ R6 นั้น ก็คือช่องใส่ Memory Card สำหรับ EOS R5 นั้นจะรองรับ CF Express 1 Slot (ไม่สามารถใส่ XQD ได้) และ SD Card UHS-II อีก 1 ช่อง ในการอัดวิดีโอ ที่ต้องใช้บิตเรตสูงๆอย่าง 8K Raw หรือ 4K All-i 60 FPS นั้นต้องใช้งานแค่ CF Express เท่านั้นไม่สามารถใช้งานบน SD Card UHS-II ได้
ส่วนตัว Canon EOS R6 นั้นรองรับ SD Card UHS-II ทั้งหมด 2 Slot สามารถใช้งานทุกฟังก์ชั่นได้ใน SD Card
พอร์ทการเชื่อมต่อทั้งคู่มีตั้งแต่ ไมค์โครโฟน, หูฟัง, สาย Type-C และช่องเสียบ HDMI แต่ที่แตกต่างกันก็คือ R6 จะมีที่เสียบแฟลชให้ ส่วน EOS R5 จะเป็นสายลั่นชัตเตอร์ ส่วนที่เสียบแฟลชจะอยู่ด้านหน้า
สิ่งที่เพิ่มมาใน Canon EOS R5 นั้นก็คือการบันทึกเสียงลงไปในภาพ โดยเสียงบันทึกนั้นเมื่อเราเปิดบันทึกลงไป จะเป็นชื่อเดียวกันภาพ แล้วก็สามารถเปิดฟังได้ในภายหลัง
แบตเตอรี่ของ Canon EOS R5 และ EOS R6 นั้นแบตเตอรี่ รุ่น LP-E6NH ซึ่งทาง Canon เครมว่าสามารถใช้ได้นานกว่าเดิม 15% เมื่อเทียบกับรุ่นเก่า ก้ต้องรอพิสูจน์ว่าใช้งานจริงได้นานแค่ไหน
ฟังกชั่นเด็ดของเจ้าตัว EOS R5 นั้นก็คือการถ่ายแบบ 8K Raw ซึ่งในวันนี้เราไม่ได้ถ่ายกลับมา เนื่องจากทีมงานไม่มีการ์ด CFexpress โดยเราถ้าใส่การ์ดที่ไม่รองรับรับ ตัว Rec Time ก็จะขึ้นเป็น 0:00 อย่างในภาพทีมงานใส่การ์ด UHS-II เข้าไปก็ไม่สามารถใช้งานได้บางฟอร์แมตวิดีโอ
กันสั่นเทพมากกกกกกก
วิดีโอในภาพนั้นได้ใช้กล้อง Canon EOS R5 ถ่ายเป็น 4K All-i 30 FPS บนการ์ด UHS-II และใช้กับเลนส์ Canon RF 85 mm f/2 IS Macro ซึ่งทางแคนอนเครมว่าสามารถช่วยเรื่องกันสั่นได้ถึง 8 Stops เลยทีเดียว พอใช้งานจริงก็ต้องบอกเลยว่านิ่งมากกก นิ่งเป็นอับดับต้นๆจากที่ทีมงานได้ทดลองใช้
Eye Detection โหดและไว
ระบบโฟกัสของ Canon EOS R5 และ R6 ต้องบอกว่ารวดเร็วแบบจริงจังมากๆครับ สามารถโฟกัสตาได้ทั้งเซนเซอร์แถมมีความแม่นยำที่สูง ทางแคนอนโฆษณาว่าสามารถตั้งเป็นโฟกัส Head, หน้า หรือตาก็ได้ และที่พิเศษสุดคือการโฟกัสสัตว์อย่าง สุขัข แมว รวมไปถึง นกได้
เลนส์ Canon RF 85 mm f2 IS STM
เลนส์ Canon RF 85 mm f/2 IS STM เป็นเลนส์ที่ต้องบอกว่าน่าสนใจมากๆ ขนาดพอเหมาะ น้ำหนักไม่ได้เบามาก แต่ก็ไม่ได้หนักจนถือไม่ไหว มีระบบกันสั่นในตัว ในราคา 20,000 กว่าบาท โบเก้ Render ได้สวยงามมากๆ Macro ก็ใกล้ราว 35 เซนติเมตรเท่านั้น
ภาพตัวอย่าง Canon RF 85 mm f/2 IS Macro จากกล้อง Canon EOS R5
(Sample Camera) ไม่ใช่กล้องตัวจริงๆ
Canon RF 100-500 mm f/4.5-7.1 IS USM เลนส์ขอบแดง น้ำหนักใกล้เคียง EF 100-400 ตัวเก่า
เลนส์ RF 800 mm f/11 IS STM
Teleconverter 2X
สรุปแล้ว Canon EOS R5 และ Canon EOS R6 เป็นกล้องที่น่าสนใจมากทั้ง 2 ตัว ทั้งคู่มีคุณสมบัติการจับถือที่ดีมากๆ ไฟล์ภาพไว้ใจได้ วิดีโอค่อนข้างโดดเด่น และที่ผมชอบมากๆ ก็คือระบบกันสั่นของทั้ง 2 ตัว หากจะต้องตัดสินใจชื้อสักรุ่นนึง ผมขอแยกตามนี้ครับ
Canon EOS R5 – เหมาะสำหรับช่างภาพอาชีพ ที่ต้องการกล้องความละเอียดสูงรุ่นนึง ทั้งการถ่ายภาพพอร์ตเทรต หรือจะเป็น Landscpae ที่ไม่ได้ใช่สาย Event รวมไปถึงสาย Stock ที่ต้องการวิดีโอ 8K คุณภาพโหดๆ แต่ไม่ได้อัดยาวนาน
Canon EOS R6 เหมาะกับสายถ่ายวิดีโอจริงๆ อย่าง Youtuber พร้อมกับระบบกันสั่นที่เยี่ยมยอด แล้วก็สายช่างภาพ Event ที่ไม่ได้ต้องการความละเอียดสูงมาก
วันนี้ต้องขอขอบคุณ Canon Thailand และ Fotofile MBK ชั้น 5 ฝั่งแคนอนน ที่เอื้อเฝื้ออุปกรณ์ให้ทีมงานได้มาลองใช้งานกันครับ