ต้องบอกเลยว่าหนีไม่พ้นจริงๆ กับกระแสกล้องสำหรับคนที่เน้นถ่ายวิดีโอ เพื่อสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ ซึ่ง ๆ เป็นกลุ่มความต้องการใหม่ ๆ ที่อาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องกล้องมากนัก รวมถึงการตั้งค่ากล้องต่าง ทาง Sony จึงออกตัวกล้อง Sony ZV-1 กล้องคอมแพคไซส์เล็ก ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ เทคโนโลยีต่างๆ แต่ใช้งานได้ง่าย แล้วก็เน้นการใช้งานด้านวิดีโอ ในราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ นั้นก็คือ 22,990 บาท
Sony ZV-1 มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ต้องบอกว่าเยอะมากๆ ที่นำมาจากรุ่นพี่ โดยเฉพาะสิ่งที่ทีมงานรู้สึกโดนเด่นมากๆ เลยก็คือ Real-Time AF เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Sony เท่านั้น โดยผสมผสานการทำงานกับระบบ AI จนทำให้ประสิทธิภาพการโฟกัสดีขึ้น แม่นยำขึ้น จนมาพร้อมฟังก์ชั่น Product Show Case ที่ใส่มาเป็นรุ่นแรก และ Background Defocus เอาไว้ปรับหน้าชัดหลังเบลอง่ายๆ เพียงกดแค่ 1 ครั้ง
สเปค Sony ZV-1
- เซนเซอร์ Stacked CMOS ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซล
- จำนวนจุดโฟกัส 315 จุดแบบ Phase Detection
- ระบบ Real Time Tracking (Touch Tracking, Animal EYE-AF และ Video Eye-AF)
- เลนส์ ZEISS® Vario-Sonnar T* 24-70mm f/1.8 – f/2.8 (รูรับแสงแคบสุด f/11 ตลอดช่วง)
- ND Filter
- หน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้วความละเอียด 0.9216 ล้านพิกเซล
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 24 FPS
- วิดีโอ 4K HDR,
- มี HLG และ S-Log 3
- กันสั่นในตัวเลนส์ พร้อม 4K Active SteadyShot ที่กันสั่นดีกว่ารุ่นเก่าถึง 8 เท่า
- สามารถถ่ายวิดีโอแนวตั้งได้
- Interval Shooting
- ขนาด 105.4 x 60 x 44 mm.
- น้ำหนัก 294 กรัม
อุปกรณ์ในกล่อง
- ตัวกล้อง
- Wind Muf
- แบตเตอรี่ NP-BX1
- สายชาร์จ Micro USB
- คู่มือ
Body
ตัวบอดี้ของเจ้าตัว Sony ZV-1 นั้นจะมีฟิวลิ่งที่เป็นพลาสติกแบบด้าน ให้ความรู้สึกจับแล้วมั่นใจ ไม่ลื่น มีกริ๊ปด้านหน้าทำให้จับได้ง่ายขึ้น ทั้งเวลาถ่ายภาพแล้วก็ถ่ายวิดีโอ ด้านบนมีไฟบอกสถานะสีแดง ว่าเราถ่ายวิดีโออยู่หรือไม่ ส่วนเลนส์รุ่นนี้เป็นเลนส์ Zeiss 9.4 mm-25.7 mm. รูรับแสง f/1.8-2.8 มีกันสั่นภายในตัวเลนส์
ด้านบนมีการปรับเปลี่ยนไปพอสมควร เพราะรอบนี้ในกล้อง ZV-1 ได้นำแฟลช และ EVF ออกไป แทนที่ด้วย ไมค์โครโฟนขนาดใหญ่แทน แล้วขยับ Hotshoe ไปไว้ด้านข้างแทน สำหรับ Hotshoe นั้นเป็นแบบ Multi Hotshoe สามารถเสียบไมค์โครโฟนรุ่นที่รองรับจากโซนี่ หรือแฟลชก็สามารถเสียบได้ โดยไม่ต้องต่อพอร์ทอื่นให้วุ่นวาย
ส่วนปุ่มนั้นก็เพิ่มปุ่มอัดวิดีโอโดยเฉพาะ ทำให้ทีมงานรู้สึกเลยว่าเป็นกล้องที่ออกแบบมาสำหรับงานวิดีโอจริงๆ, ปุ่มชัตเตอร์ไว้เวลาถ่ายภาพ,ปุ่มเปิด-ปิด, ปุ่ม Mode ไว้ปรับโหมดการถ่าย รวมถึงสลับไปยังวิดีโอเช่นกัน,สวิทช์ซูมตัวเลนส์ แล้วก็ปุ่ม C1 ซึ่ง Sony ตั้งไว้เป็นฟังก์ชัน Background Defocus
ด้านหลังก็ต้องบอกกันเลยว่า แทบจะเหมือน Sony RX100 Series แต่ตัวจอนั้นมุมองศาการเปิดสามารถทำได้ถึง 176 องศา, แล้วก็หมุนได้ 270 องศา กันเลยทีเดียว ที่สามารถพับหน้าจอกลับมาเซลฟี่ได้อีกด้วย ต่างจาก RX100 ที่พับขึ้นบนได้เท่านั้น
สำหรับพอร์ทก็ถือว่าครบครันมากๆ ตั้งแต่ไมค์โครโฟน 3.5 mm. ช่อง Multi Port (Micro USB) ไว้สำหรับการชาร์จ, เชื่อมต่อข้อมูล และ อุปกรณ์เสริมอย่างๆ รวมถึงขากริ๊ป VCT-SGR1 อีกด้วย ส่วนพอร์ทสุดท้ายนั้นเป็น Micro HDMI รองรับการจอต่อนอก (รองรับ Clean HDMI)
ด้านล่างเป็นช่องใส่การ์ด (SD Card) ส่วนแบตเตอรี่เป็น NP-BX1 รุ่นเดียวกับตระกูล RX100 ทั้งหลาย ใครที่ใช้อยู่ ก็สามารถนำมาใช้ได้เลย แถมรองรับการใช้ไป ชาร์จไปอีกด้วยผ่านช่อง Multi Port
งานวิดีโอที่โดดเด่น
เจ้าตัว Sony ZV-1 นั้นก็ต้องบอกว่ารองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ในรูปแบบ HDR แถมยังรองรับ Profile สีแบบมืออาชีพทั้ง S-Log2,3 รวมไปถึง HLG แต่ในส่วนนี้ทีมงานจะไม่ได้เจาะลึก แต่จากมาเน้นเล่าประสบการณ์การใช้งานเจ้าตัว ZV-1 ให้ฟังกัน
สิ่งที่ผมชอบโดยรวมเลยก็คือในโหมดการถ่ายวิดีโอนั้นสามารถใช้งานได้ง่าย ปรับ Auto ก็ปรับวิดีโอออกมาได้สวยงาม โดยเฉพาะการวัดแสงที่หน้าเป็นหลัก เกิดให้เวลาเราถ่ายย้อนแสง หน้าของเรานั้นก็ยังสว่างอยู่ พร้อม Skin Tone ที่ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
ข้อจำกัดของการถ่ายวิดีโอ 4K ก็คือเราไม่สามารถเลือกความสว่างหน้าจอได้เพื่อช่วยลดความร้อนของตัวกล้องในระหว่างการถ่ายวิดีโอ
โฟกัสรวดเร็วตามสไตล์โซนี่ พร้อม Product Showcase
โฟกัสในการถ่ายวิดีโอนั้นก็ต้องบอกว่าเร็วมากๆ ครับ ระบบ AI ทำงานได้ตลอดเวลา การจับหน้าคน และ ดวงตาคน ทั้งในภาพนิ่งและวิดีโอก็ต้องยอมรับว่าโซนี่ทำกล้องออกมาได้รวดเร็วมากๆ
ฟีเจอร์ที่ผมชอบมากๆเลยในตัววิดีโอ แล้วได้ใช้เป็นประจำ ก็คือ Product ShowCase เป็นการเลือก Priority โฟกัสให้เลือกโฟกัสที่สิ่งของด้านหน้า จากที่ปกติกล้อง Sony นั้นจะเน้นการใช้งาน Face Detection เป็นหลัก แต่ตอนนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้เน้น Face Detection หรือจะเน้นไปโฟกัสด้านหน้าแทน
ระบบกันสั่นแบบ Aแtive
ระบบกันสั่นสำหรับการถ่ายวิดีโอนั้น จะอยู่ที่ตัวเลนส์ มีให้เลือก 3 แบบ แบบแรกคือปิด แบบที่ 2 คือแบบธรรมดา โดยใช้กันสั่นในตัวเลนส์เลย และแบบ Active ใช้กันสั่นในตัวเลนส์ + กันสั่นแบบดิจิตอล ซึ่งจะคร็อปเพิ่มไปอีกพอสมควรเลยทีเดียว
แล้วก็ต้องยอมรับกันตามตรงว่าประสิทธิภาพของกันสั่น ไม่ได้ดีมากนัก แม้ว่าจะเปิดแบบ Active ก็ตาม ทีมงานแนะนำหากถ่ายวิดีโอจะไม่แนะนำให้เดินไปถ่ายไป แต่อยากจะแนะนำลองเปลี่ยนแนวเป็นยืนถ่ายครับ
ไมค์โครโฟน 3 ทิศทาง เสียงชัดรอบด้าน
คุณสามารถบันทึกเสียงร้องที่คมชัดแม้ในขณะถ่ายภาพในฝูงชน ไมค์แบบแคปซูล 3 ทิศทางเฉพาะตัวของกล้องจะรวบรวมเสียงที่ชัดเจนจากด้านหน้ากล้อง เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอมากๆ
สำหรับคนที่ชอบออกไปถ่าย Outdoor ในตัวกล่องก็จะมี Wind Muff แถมมาให้ เอาไว้กันลมที่จะเกิดขึ้น ช่วยให้เสียงใส คมชัดมากขึ้นเวลามีลมพัดไปมา
หลังจากที่ทีมงานได้ลองมา ตัวไมค์สามารถรับเสียงรอบข้างที่ไม่ไกลได้ดีมากๆ ในระยะราว ครึ่งเมตร แต่ถ้าอัดในห้องทั่วไปเสียงมันจะมีความบี้ๆ เล็ก แนะนำเสียบไมค์แยกจะได้เสียงที่ดียิ่งขึ้นครับ
ถ่ายวิดีโอแนวตั้ง
เริ่มมาตั้งแต่ช่วง Sony RX100 M7 สำหรับซี่รี่ย์คอมแพค ก็สามารถถ่ายวิดีโอแนวตั้งได้ทุกตัว Sony ZV-1 ก็สามารถทำได้เช่นกันแถมตัว Output ออกมาทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ก็ออกมาเป็นแนวตั้งอีกด้วย ทำให้สามารถแชร์เข้าไปใน Social Media ได้ง่ายง่ายดาย
กลับมาอีกครั้งกับ ND Filter
หลังจากที่ทาง Sony ได้ตัด ND Filter ออกไปตอน RX100 VI เพราะว่าเปลี่ยนเลนส์ไปเป็น 24-200 mm สายวิดีโอก็เศร้ากันไปนิดๆ ตอนนี้ทาง Sony ได้ใส่เลนส์ 24-70 mm กลับมา ทำให้ทางโซนี่สามารถใส่ ND Filter ปรับมาได้ โดย ND Filter นั้นลดแสงลงไปถึง 3 Stops เหมาะสำหรับคนที่ถ่ายงานวิดีโอแล้วต้องการ Motion Blur ในเวลากลางวันได้
ตัวกล้องรองรับการถ่าย Time-Lapse โดยจะเป็นการถ่ายแบบ Interval แล้วเราต้องนำไปต่อเองบนโปรแกมต่างๆ แล้วก็ที่โดดเด่นมาตลอดในตระกูล RX Series นั้นก็คือ High Frame Rate ที่สามารถทำได้ถึง 1000 FPS กันเลยทีเดียว แล้วตัวกล้องก็จะ Slow Motion ให้ภายในตัวกล้อง
มี Clean HDMI พร้อม Live!
คุณสมบัติที่ขายไม่ได้เลยของกล้องในยุค 2020 นั้นก็คือฟังก์ชั่น Clean HDMI นั้นเอง หากใครยังไม่รู้จักทีมงานขออธิบายสั้นว่ามันคือการส่งออกข้อมูลภาพ โดยไม่เห็นตัวอักษร เอาไว้สำหรับการ Live Straming โดยเฉพาะ
สำหรับข้อมูลที่ส่งออกไปก็รองรับทั้งภาพและเสียงในตัวเดียว โดยส่งข้อมูลออกมาทางพอร์ท Micro HDMI
รู้ได้ว่ากำลังบันทึกภาพอยู่หรือไม่ ด้วยไฟด้านหน้ากล้องสีแดง
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แอดมินรู้สึกว่าว่า Nice to Have มากๆเลยก็คือ สีบอกสถานะการถ่ายวิดีโออยู่ โดยไฟดวงนี้จะอยู่ด้านหน้า เวลาเราถ่ายทำวิดีโอ ทำให้เรารู้ได้ว่าเราบันทึกวิดีโออยู่หรือไม่ ป้องกันการถ่ายวิดีโอแล้วลืมบันทึก
Soft Skin Effect ผิวเนียนแบบไม่หลอกตา
Soft Skin effect เป็นเอฟเฟคทำให้หน้ามีความเนียนขึ้นโดยมีให้ปรับเลือก 4 ลำดับคือ Off, Low, Mid, High ตามลำดับความเนียน ในโหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานทั่วไป
ตัวอย่างภาพของ โหมด Soft Skin Effect หมายเลข 0 = ปิด, หมายเลข 1 = Low, หมายเลข 2 = mid, หมายเลข 3 = High
ส่วนตัวทีมงานจะเปิดประมาณ Low ไว้ตลอด เพราะผิวหน้ามีความเนียน เล็กๆ แถมยังมีรายละเอียดที่ดีอยู่
Defocus หน้าชัดหลังเบลอง่ายๆ เพียงแค่กด 1 ครั้ง
ฟีเจอร์ Background Defocus เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้มือใหม่ทำหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายขึ้น เพียงกด C1 (บนกล้องมุมขวา) ตัวกล้องก็จะเข้าการทำงานถึงฟีเจอร์ Defocus ในทันที โดยคำสั่งจะมี 2 คำสั่งก็คือ Defocus ก็คือหน้าชัดหลังเบลอ ตัวกล้องจะปรับเป็นรูรับแสง f/1.8 ให้ และ Clear ตัวกล้องก็จะลดรูรับแสง เพื่อให้เราเห็นภาพที่ชัดลึกมากขึ้น (หน้าชัดหลังเบลอน้อยลง)
เลือกโหมดง่ายๆ ใครๆก็ทำได้
Sony ZV-1 เมื่อเรากดคำว่า Mode ด้านบนตัวกล้องจะแสดง โหมดการทำงานต่างๆของกล้อง และเราสามารถเข้าไปเลือกได้ว่าตัวจะให้กล้องทำงานทำเป็นโหมดวิดีโอ หรือภาพนิ่ง รวมทั้งตั้งการถ่ายแบบ High Frame Rate 1000 FPS ก็ตั้งได้ตรงนี้
แบตเตอรี่รุ่นเดิม ชาร์จไป ใช้งานไปได้
Sony ZV-1 ใช้แบตเตอรี่รุ่น NP-BX1 เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในพวกตัว RX100 Series เท่าที่ทีมงานได้ลองใช้งานนั้น สามารถใช้งานได้ประมาณครึ่งวัน หากใช้งานโหดประมาณนึง ฉะนั้นทีมงานขอแนะนำชื้อแบตเตอรี่ไว้ พร้อมตัวแท่นชาร์จ เพราะว่าในกล่อง Sony ZV-1 นั้นก็ต้องบอกเลยว่า ไม่มีแท่นชาร์จมาให้ ต้องชื้อแยก
PlayMemories Mobile แอพพิเคชั่นถ่ายโอนรูปภาพ วิดีโอ
PlayMemories Mobile แอพพิเคชั่นในการถ่านโอนทั้งภาพ และ วิดีโอไว้สำหรับเอาไปแชร์เข้าเฟสบุ๊ค Instagrae หรือ Tiktok จากเจ้าตัว Sony ZV-1 โดยมีวิธีใช้งานง่ายๆดังนี้
- เลือกไปที่รูป กด FN แล้วก็จะมีให้ว่าจะเอาแค่รูปนี้ หรือว่าจะเอาทั้งหมด
- เปิดแอพพิเคชั่น PlayMemories Mobile กด Scan QR Code ในครั้งแรก แล้วก็ Scan บนหน้าจอ
- กด Join
- รับรูปภาพ/วิดีโอจากตัวกล้อง
ส่วนในครั้งต่อไปนั้นก็ง่ายๆ เพียงแค่กดรุ่นกล้องใน PlayMemories Mobile ก็เชื่อมต่อได้แล้วครับ โดยไฟล์ที่ดาว์นโหลดนั้นสามารถโอนไฟล์ได้ทั้งไฟล์รูปภาพทั่วไป หรือจะเป็นวิดีโอ ก็ง่ายจบในแอพเดียว แต่มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ ไม่สามารถโอน Raw File ออกมาจากกล้องได้ (ตัวกล้องจะแปลงเป็น JPEG ให้อัตโนมัติ)
เลนส์ 24 mm จริงไหม กว้างพอรึเปล่า
เป็นอีกคำถามที่ตั้งคำถามกันตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวว่าเลนส์เจ้าตัว Sony ZV-1 นั้นเริ่มต้นที่ 9.4 mm. เมื่อดูที่หน้าเลนส์ ซึ่งหากเป็น 24 mm. จริงๆแล้วนั้นจะต้องมีระยะเริ่มต้นอยู่ที่ 8.8 mm. เหมือนกับ Sony RX100V เพราะมี Crop Factor ตามขนาดเซนเซอร์อยู่ที่ 2.7 (8.8*2.7 = 24 mm.
เท่าที่ลองใช้งาน และเทียบกับรุ่นเก่านั้นก็ต้องบอกว่า Sony ZV-1 นั้นไม่ใช่เลนส์ช่วง 24 mm. จริงๆ เพราะเมื่อเทียบกับกล้องที่ใช้เลนส์ 24 mm. จริงๆ กลับแคบกว่าเล็กน้อย ตามช่วงเลนส์ที่คูณ Crop Factor 2.7 แล้วถ้าถามว่าระยะจริงๆเมื่อเทียบกับฟูลเฟรมนั้นเท่าไหร่ คิดว่าก็ตามหน้าเลนส์เลยครับ ก็คือ 9.4 x 2.7 = 25.38 mm.
แต่ที่ผมชอบเลนส์ตัวนี้ก็คือการที่เราสามารถถ่ายได้ใกล้เพียง 5 เซนติเมตรเท่านั้นในช่วงไวด์ และ ก็ต้องบอกว่าเป็นเลนส์ที่คมมากๆ ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ ต้องเรียกว่าสมเป็นเลนส์ Zeiss มากๆ
ไม่รู้คำศัพท์ไหนอธิบายให้!
เวลาเรามีข้อสงสัยว่าฟังก์ชั่นนี้คืออะไร ทำงานอะไร เพียงเรากดปุ่มถังขยะ ตัวกล้องก็จะแสดงคำอธิบายนั้น
รูปภาพตัวอย่าง
รูปภาพจาก Sony ZV-1 ก็จะสไตล์กล้องเซนเซอร์ 1 นิ้วทั่วไป ไม่ได้มีความเบลอมาก แต่ให้สีที่สดใสกว่าตระกูล RX100 Series
Conclusion
กล้อง Sony ZV-1 ต้องบอกว่าเป็นกล้องที่ฉลาดทรงพลังในการคำนวณมากๆ โดยเฉพาะในเรื่องการโฟกัส ที่ก็ต้องบอกว่าเป็นพระเอกจริงๆ โดยเฉพาะที่ผมชอบมากๆก็คือ Product Showcase แล้วก็ที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือการใช้งานด้านงานวิดีโอต่างๆ อย่างการถ่าย 4K HDR หรือจะเป็นการถ่าย Slow Motion 1000 FPS ความใช้งานง่ายของกล้องรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่าทำได้ดี เป็นอีกรุ่นที่ก็ต้องบอกว่าแนะนำเลยสำหรับมือใหม่
สิ่งที่ทีมงานอยากให้ใส่เข้ามาในกล้อง Sony ZV-Series รุ่นใหม่ มีอยู่ราว 3 สิ่ง อย่างแรกก็คืออยากให้เป็นพอร์ท USB Type-C แทน Micro USB เพราะรองรับการชาร์จได้เร็วกว่า พอร์ทในปัจจุบันได้รับความนิยมมากกว่า แล้วก็น่าจะทำให้เสียบเป็นช่องหูฟังได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ Sony น่าจะออกแบบมาใช้กับไม้กริ๊ป VCT-SGR1 เลยทำมาเป็น Micro USB
ส่วนอย่างที่ 2 ก็คือช่วงเลนส์กว้างสุดค่อนข้างแคบไปต่อการถือถ่ายวิดีโอ ทีมงานอยากได้สัก 20 mm. เข้ามา อย่างที่ 3 ก็คือระบบกันสั่นของตัวกล้อง ท่ีอยากให้พัฒนาให้ดีเทียบเท่า หรือคู่แข่ง โดยเฉพาะเวลาที่ใช้กันสั่นธรรมดา ไม่ใช่แบบ Active ส่วนที่เหลือนั้นทีมงานมองว่าเป็นกล้องที่มีสามารถสมกับขนาดตัวแล้ว ไม่อยากเข้าไปติอะไร
ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้กับตระกูล RX100 Series ว่าเราควรชื้อรุ่นไหนดีทีมงานสรุปสั้นๆดังนี้ครับ
- Sony ZV-1 เหมาะสำหรับคนที่ชอบในการวิดีโอโดยเฉพาะเลย เพราะว่ามีฟีเจอร์ให้เหมาะสมกับการถ่ายวิดีโอ
- Sony RX100 Series เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพนิ่ง เพราะมี Dials ในการปรับโหมดต่างๆได้ง่ายกว่า
ส่วนใครที่เน้นใช้ทั้ง 2 อย่างนั้นทีมงานก็แนะนำให้ไปลองจับที่ร้านค้าชั้นนำว่าชอบตัวไหนมากกว่ากันครับ
อุปกรณ์เสริมแนะนำ
แบตเตอรี่ NP-BX1
เนื่องด้วยตัวกล้อง Sony ZV-1 มีขนาดกล้องที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้ต้องใช้แบตเตอรี่ก้อนเล็กไปด้วย ตัวนั้นก็คือ NP-BX1 ทำให้ทีมงานขอแนะนำว่าอยากให้ชื้อแบตเตอรี่สำรองไว้ใช้งานครับ ทำให้ใช้งานใช้ได้ครบวัน พร้อมก็แท่นชาร์จอีกสักตัวก็จะเป็นชุดที่โอเครครับ ราคาแบตเตอรี่อยู่ที่ก้อนละ 1,990 บาท
กริ๊ป GP-VPT2BT
GP-VPT28T ด้ามจับกริ๊ปที่สามารถควบคุมตัวกล้องได้แบบ Wireless (Bluetooth) รองรับการใช้งานคู่กับกล้อง Mirrorless หลายตัวของ Sony และยังสามารถใช้เป็น tripod ได้อีกด้วย ที่สำคัญมีความยาวที่มากกว่ารุ่นธรรมดา ทำให้จับถนัดยิ่งขึ้น ราคาอยู่ที่ 3,590 บาท
สั่งชื้อ Sony ZV-1 – Sony Store
สั่งชื้อ Sony ZV-1 – Big Camera
สั่งชื้อ Sony ZV-1 – Zoom Camera