ในปีนี้กล้อง iPhone ตระกูล 11 Series ถือว่าเป็นมีการพัฒนาจากรุ่นเก่าพอสมควร ทีมงานเลยอยากมารีวิวให้ดูกันว่ากล้องของ iPhone 11 Series นั้นดีขึ้นจริงหรือไม่ โดยรุ่นที่ทีมงานชื้อมาลองใช้นั้นเป็นเจ้าตัว iPhone 11 Pro นั้นเอง ซึ่งเป็นรุ่นที่กล้องดีที่สุด เพราะมีถึงถึง 3 ตัวนั้นเอง ได้แก่เลนส์ อัลตร้าไวด์เทียบเท่า 13 mm, เลนส์ไวด์เทียบเท่า 26 mm และ เลนส์นอร์มอลเทียบกับ 52 mm. (11 ธรรมดาจะไม่มีเลนส์นอร์มอล)
สเปคกล้อง iPhone 11 Pro
- เลนส์อัลตร้าไวด์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ระยะเทียบเท่า 13 mm. รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ไวด์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ระยะเทียบเท่า 26 mm. รูรับแสง f/1.8
- เลนส์นอร์มอลความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ระยะเทียบเท่า 52 mm. รูรับแสง f/2.0
- ระบบกันสั่นในกล้องไวด์และนอร์มอล
- รองรับการซูมดิจิตอลได้ 10 เท่า
- กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- แฟลช True Tone
- Portrait Mode
- Smart HDR
- วิดีโอ 4K ได้ที่สูงสุด 60 FPS ทั้งกล้องหน้าและหลัง
- การซูมเสียง
หน้าตาของโหมดกล้อง iPhone นั้นเรียกได้ว่าเหมือนกับรุ่นเก่ามาก แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการใช้งานทั่วไป สามารถเลือดโหมดการใช้งาน, ซูม และ ปรับเล็กๆน้อยๆ
แต่จะต่างออกไป เวลาเลี่อนจากแถวคำว่า Photo ขึ้นมา จะมีเมนูให้ตั้งค่า โดยสามารถเลือกเปิด/ปิดแฟลช, Night Mode (จะขึ้นเองเมื่ออยู่ที่แสงน้อย), Live Photo, อัตราส่วนของภาพ, Timmer และ ฟิวเตอร์สี
สิ่งที่มีแค่ iPhone 11 Series นั้นก็คือ Night Mode ซึ่งจะทำงานเมื่อกล้องรู้สึกว่าเป็นที่แสงน้อยเท่านั้น ไม่สามารถเปิดเองได้ โดยปกตินั้นหากสถานการณ์ปกติจะเลือกให้เป็น 1 วินาที แล้วเราสามารถปรับได้เป็น 2-3 วินาที แต่ถ้าแสงน้อยมากๆ กล้องจะปรับให้เป็น 3-5 วินาที แล้วเราสามารถปรับได้สูงสุด 10 วินาที
กล้องหน้านั้นเมื่อเราใช้งานเราสามารถซูมออกได้ประมาณ 2 mm. ทำให้เซลฟี่ได้กว้างขึ้นอย่างรู้สึกได้
โหมด Portrait นั้นเราสามารถปรับสีให้เป็นทั้ง Natural Light,Studio Light, Contour Light หรือจะเป็นแบบตัดฉากหลังก็มีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้งาน
โหมดวิดีโอนั้นสามารถถ่ายได้ที่ 4K 60 FPS ซึ่งสามารถใช้งานได้จากเลนส์ทั้ง 3 ตัว ต่างจากคู่แข่งบางรายที่ใช้งานไวด์อัลตร้าไวด์ไม่ได้
สำหรับโหมดของภาพนั้นทีมงานจะแยกเป็น 5 ส่วนก็คือ พอร์ตเทรต,อาหาร, Landscape, NightMode แล้วก็ ภาพทั่วไป
Portrait
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์นอร์มอล
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์ไวด์
ภาพที่ได้จากการถ่าย Portrait จะมีความแตกต่างจากรุ่นเก่าที่ทีมงานได้ใช้งาน เพราะ iPhone 11 Pro นั้นสามารถถ่ายด้วยโหมด Portrait ได้ด้วยเลนส์ไวด์ (26 mm) ทำให้การเบลอจะไม่ต้องถอยเยอะเหมือนรุ่นเก่าๆที่เจอ โดยการเบลอนั้นสามารถปรับรูรับแสงได้ในภายหลังจากที่เราถ่าย
ส่วนการตัดขอบนั้น ต้องบอกว่าทำได้ดีขึ้นจากรุ่นเก่าๆ แต่ก็ไม่ได้เนียบ หรือเนียนเท่าหลายๆค่าย
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์นอร์มอล 
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์ไวด์ 
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์อัลตร้าไวด์
ทั้ง 2 ภาพนั้นเป็นภาพที่ถ่ายที่งาน awakening การให้สีนั้นถือว่าทำได้ดี ตรงกับสีจริงพอสมควร แต่เราจะสังเกตุได้ว่าในที่แสงน้อยนั้นภาพจากเลนส์อัลตร้าไวด์ มีคุณภาพที่แย่กว่าเลนส์ไวด์อย่างชัดเจน จากค่ารูรับแสงที่แคบกว่าพอสมควร และไม่มีกันสั่น 
iPhone 11 Pro เลนส์ไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์
แต่ในสภาพแสงปกติระหว่างเลนส์ไวด์และอัลตร้าไวด์ต้องเลยว่าคุณภาพถ้าไม่ได้ซูมดูจริงๆนั้นแทบแยกไม่ออกเลย จะต่างก็ตรงที่ Perspective ของเลนส์
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์นอร์มอล
ในการย้อนแสงนั้นถือว่าทำได้ไม่แย่เลยทีเดียว อาจจะติด uder ตามการวัดแสงของ iPhone 11 Pro แต่ก็สามารถดึงกลับมาได้
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์นอร์มอล 
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์นอร์มอล
ภาพอาหาร
iPhone 11 Pro เลนส์ไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์ไวด์ 
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์ไวด์
iPhone 11 Pro เลนส์ไวด์ 
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์นอร์มอล 
iPhone 11 Pro Portrait Mode เลนส์ไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์ไวด์
ภาพ Landscape
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์นอร์มอล 
iPhone 11 Pro เลนส์นอร์มอล 
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์นอร์มอล
iPhone 11 Pro เลนส์นอร์มอล พร้อม Digital Zoom
iPhone 11 Pro เลนส์นอร์มอล
ในการใช้งาน Landscape ทีมงานส่วนใหญ่จะใช้กล้องอัลตร้าไวด์ และ นอร์มอล เพราะว่าอยากจะเก็บโดยรวม หรือไม่ก็เจาะไปเลย ทำให้การที่มีเลนส์ อัลตร้าไวด์ และ นอร์มอล ถือว่าสะดวกสำหรับผมมาก และคุ้มค่าที่จ่ายเงินเพิ่มจาก iPhone 11 ธรรมดา
ภาพถ่ายกลางคืน
iPhone 11 Pro เลนส์ไวด์ 
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์
iPhone 11 Pro เลนส์ไวด์
ใน Nightmode นั้นจะสามารถใช้งานได้แค่กล้องไวด์และนอร์มอลเท่านั้นไม่สามารถใช้งานเลนส์อัลตร้าไวด์ได้ ทีมงานเข้าใจว่าเป็นเพราะในเลนส์อัลตร้าไวด์ไม่มีกันสั่น
ในการใช้งาน Night Mode นั้นจะเป็นการลาก Speed Shutter เพื่อให้รับแสงได้นานขึ้น ดัน ISO น้อยลง จนทำให้ภาพคุณภาพดีขึ้น สิ่งที่ Amazing มากๆคือ หากเราอยู่นิ่ง แอปเปิ้ลจะใช้ชอร์ฟแวร์ในการ Process ให้ภาพไม่สั่นได้
แต่หากเราอยู่ในสภาวะไม่ได้อยู่นิ่งนั้นเวลาถ่ายภาพกลางคืน ออกจะหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะต้องไปปิด Night Mode ก่อน เพื่อให้ภาพไม่สั่น ไม่งั้นชอร์ฟแวร์จะลาก Speed Shutter อัตโนมัติ
ภาพถ่ายทั่วไป
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์
เลนส์อัลตร้าไวด์ทำให้การถ่ายโชว์รถได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องถอยเยอะ 
iPhone 11 Pro เลนส์อัลตร้าไวด์
การมีเลนส์อัลตร้าไวด์นั้นช่วยให้การถ่ายภาพแบบรวมๆได้ง่ายขึ้นมาก
iPhone 11 Pro เลนส์นอร์มอล พร้อม Digital Zoom
ภาพสุริยุปราคา
iPhone 11 Pro เลนส์ไวด์
*ภาพทั้งหมดเป็นภาพที่ออกมาจาก iPhone 11 Pro แต่ในบางภาพนั้นได้มีการปรับแต่งผ่านโปรแกมทั้ง RNI Film และ Lightroom Mobile
วิดีโอ
วิดีโอฟีเจอร์เด็ดของ iPhone 11 Pro นั้นคือสามารถถ่ายได้ 4K 60 FPS ทั้งกล้องหน้าและกล้องด้านหลัง แล้วยังมาพร้อมการอัดเสียงแบบสตูดิโอ ที่สำคัญสามารถซูมเสียงได้อีกด้วย
โดยรวมกล้อง iPhone 11 Pro ต้องบอกว่าทำได้เยี่ยมยอดมากๆ หลังจากที่คุณภาพสู้คู่แข่งฝั่ง Android มาหลายปี คุณภาพของกล้องนั้นอาจจะยังไม่ได้ชนะฝั่ง Android แต่ถือว่าไม่ได้แย่กว่ามากเหมือนสมัยก่อน ส่วนตัวชอบโทนสีของ iPhone มากกว่า ที่เป็น Base กลาง สีไม่จัดไป เอาไปทำในชอร์ฟแวร์ได้ง่าย ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากในการชื้อ iPhone 11 Pro มาใช้งาน
ที่ต้องชื่นชมอีกเรื่องก็คือ Smart HDR ที่ต้องบอกว่าทำงานได้ฉลาดมากๆ และทำงานได้รวดเร็วทันใจ ด้านวิดีโอก็ถือว่าทำได้ดีมาตรฐานสมาร์ทโฟนรุ่นนึง เก็บเสียงได้เก่ง สามารถซูมเสียงได้
ที่ไม่ชอบก็ยังมีครับ อย่างการซูมนั้นหากเราถ่ายวิดีโอระหว่างเลนส์อัลตร้าไวด์และไวด์จะเห็นอย่างชัดเจนว่า Perspective ของเลนส์ และ Noise ต่างกันชัดเจน และ Night Mode ยังไม่รองรับในเลนส์อัลตร้าไวด์
สุดท้ายหลายคนน่าจะมีคำถามว่าถ้าชอบกล้อง iPhone 11 Series มากๆ เลือกตัวไหนดี ทีมงานก็แยกดังนี้ครับ
- iPhone 11 เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด ไม่ได้ถ่ายเลนส์ช่วงนอร์มอลบ่อย
- iPhone 11 Pro เหมาะสำหรับคนที่ชอบสมาร์ทโฟนจอไม่ใหญ่มาก แต่ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดโดยเฉพาะส่วนของกล้องและหน้าจอ
- iPhone 11 Pro Max เหมาะสำหรับคนที่ชอบรูปท็อป หรือที่สุดของสมาร์ทโฟน และ ชอบหน้าจอใหญ่
