Fujifilm X-T30 หรือ Fuji X-T30 กล้องระดับ Middle Class ที่ทาง Fujifilm ได้เรียกเจ้าตัวนี้ว่า “the Little giant ด้วยสเปคภายในที่มาใน The 4th Generation ที่ใช้เซ็นเซอร์และหน่วยประมวลผลรุ่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง X-T3 อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบโฟกัส Face/Eye ที่ได้พัฒนาให้หนึบสุด ๆ ในด้าน Profile Picture ที่เป็นจุดเด่นมาตลอด ในรุ่น X-T30 ก็มาครบทุกแบบ โดยเฉพาะยอดฮิตอย่าง Classic Chrome รวมไปถึง Eterna
ยิ่งไปกว่านั้นในงานวิดีโอ กล้องในราคา 30,000 บาทนิด ๆ แต่สามารถถ่ายวิดีโอแบบความละเอียดสูงสุดแบบ 4K 4:2:2 10Bit แบบใช้ External Recorder หรือ แบบ 4K 30Fps 4:2:0 8 Bit ได้ในตัว รวมไปถึง Slomotion แบบ Full HD ได้ถึง 120 Fps และยังรองรับ Face/Eye AF สำหรับงานวิดีโอด้วยครับ
ทีมงาน ThePeakFoto ได้ลองใช้กล้องเต็ม ๆ ตลอดเวลา 3 อาทิตย์ ในบทความนี้จะพาไปดูว่า Fujifilm X-T30 มีอะไรน่าสนใจบ้างครับ
กล้องระดับกลาง ที่มาในดีไซน์แบบ Retro ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป!
ถึงแม้ Fujifilm X-T30 จะเป็นกล้องที่ไม่ได้ปรับเปลื่ยนดีไซน์จากรุ่นก่อนหน้าเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์มีความ Retro ที่สำคัญคือขนาดที่ไม่ได้ใหญ่ มีน้ำหนักเพียงแค่ 380 กรัมเท่านั้น ทำให้การใช้งานจะคล่องตัวมาก ๆ แต่อาจจะแลกมาด้วยการจับถือ ที่ตัวกริ๊ปของกล้องไม่ได้ใหญ่มาก แต่หากไม่ได้เป็นคนมือใหญ่ก็ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ ซึ่งสีที่ขายในประเทศไทยในปัจจุบัน มีทั้งหมด 3 สี นั้นก็คือ สีดำ สีเงิน และ สีพิเศษ Charcoal Silver
EVF ดีขึ้น ตัวกล้องควบคุมได้ทั้ง Joy Strick และ TouchScreen
ในที่สุดกล้องตระกูลนี้ ก็ได้ใส่ Joy Strick ที่ควบคุมได้ 8 ทิศทาง เข้ามาแล้วครับ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างหลักของเรื่องดีไซน์เมื่อเทียบกับ X-T20 ที่ใช้ปุ่มสี่ทิศทางครับ โดย Joy Strick มีประโยชน์มาก ๆ กับการเลื่อนจุดโฟกัส รวมถึงเลื่อนเมนูต่าง ๆ และยังรองรับ Touch Screen ที่จอด้วยเช่นกัน ที่สามารถใช้งานเพื่อสัมผัสแล้วตัวกล้องก็จะโฟกัสให้ รวมไปถึงท่าทางการใช้นิ้วสัมผัสต่าง ๆ เช่น การใช้สองนิ้วเพื่อซูมดูรูป ก็สามารถทำได้ในรุ่นนี้แล้วครับ รวมไปถึง Touch Shutter กดที่จอตัวกล้องจะถ่ายภาพให้ด้วยครับ
สำหรับ X-T30 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3 นิ้ว สามารถพับจอได้แค่ขึ้นลง ไม่สามารถพับออกด้านข้างมาเซลฟี่ได้ครับ ในส่วนของ EVF นั้นมีความละเอียด 2.36 ล้านdot โดยได้พัฒนาขึ้นจาก Fujifilm X-T20 แบบเท่าตัวเลยครับ ในเรื่องของ FlameRate ซึ่ง X-T30 อยู่ที่ 100 เฟรมต่อวินาที และ X-T20 ทำได้ 54.54 เฟรมต่อวินาที ซึ่งการทำ Flamerate เยอะ ๆ จะทำให้เราสบายตาเวลามองผ่านช่องมองภาพนั้นเองครับ
การเชื่อมต่อครบทั้ง ช่องไมค์แบบ 2.5mm / ช่อง USB Type-C / Micro HDMI
การเชื่อมต่อนั้นก็ให้มาครบเลยครับ สำหรับรุ่น X-T30 นั้นจะมาพร้อมกับช่องเสียบไมค์แบบ 2.5mm ซึ่งไม่ใช่มาตรฐานที่เค้าใช้กันเท่าไหร่ คาดว่าด้วยเหตุผลที่เป็นกล้องขนาดเล็ก ทำให้พื้นที่ในการวางพอร์ตจำกัดมาก ๆ ครับ ยกตัวอย่างเช่นหากต้องการเสียบ ช่อง ไมค์กับ USB พร้อมกัน อาจจะทำไม่ได้เนื่องด้วยพื้นที่ขนาดระยะห่างระหว่างพอร์ตนั้นเองครับ ทำให้จำเป็นต้องหาตัวแปลง 2.5mm to 3.5mm มาใช้งานครับ ซึ่งจากการทดสอบก็ใช้ได้ดีไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ ในรุ่น X-T30 ก็ได้เปลื่ยนมาใช้พอร์ตแบบใหม่ USB Type-C ที่รองรับการชาร์จแบตสำรอง โดยสามารถใช้งานไปชาร์จไปได้ เป็นจุดเด่นเลยครับ รวมไปถึงการรองรับการต่อตัวแปลง Type-C เป็น 3.5mm เพื่อที่จะทำให้สามารถฟังเสียงมอนิเตอร์ได้ สำหรับช่องต่อ HDMI นั้น เป็นแบบ Micro HDMI หรือแบบที่เล็กที่สุดนั้นเองครับ
The 4th Generation เซ็นเซอร์และหน่วยประมวลผลรุ่นเดียวกับรุ่นพี่
Fujifilm X-T30 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขนาด 26.1 ล้านพิกเซล แบบ X-Trans CMOS 4 และระบบมวลผล X-Process 4 รุ่นเดียวกับรุ่นพี่ X-T3 ไม่ได้มีการตัดทอนสเปคแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Fujifilm โดยเฉพาะเซ็นเซอร์แบบ BSI ที่ ทำให้ตัวเซ็นเซอร์สามารถรับแสงได้ดีกว่าเดิม ส่งผลให้ไฟล์ภาพของ Fujifilm X-T30 มีการ Noise ที่น้อยกว่ารุ่นแรกอย่างชัดเจน รวมไปถึง ความคม การจัดการDR สำหรับระบบชัตเตอร์ของ X-T30 มีให้เลือกสองแบบ Mechanical Shutter จะสามารถใช้ Shutter Speed ได้ที่ 60 นาที – 1/4000 วินาที และแบบ Electronic Shutter ได้ที่ 4 วินาที – 1/32000 วินาที
การแต่งรูปของไฟล์ฟูจิฟิล์มนั้น ไฟล์ JPEG จะอยู่ที่ประมาณ 10-15 mb ไฟล์แน่น สามารถปรับแต่งได้เยอะ อย่างตามรูปตัวอย่างก็เป็นรูปที่ถ่ายมาแบบ JPEG ก็สามารถทำโทนได้ไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ และในส่วนของไฟล์ RAW ของ Fujifilm X-T30 จะเป็นไฟล์นามสกุล .RAF ซึ่ง มีขนาดใหญ่ถึง 50-60 mb เลยครับ และตัวโปรแกรม Lightroom ล่าสุดก็สามารถเปิดได้แล้ว และ Fujifilm ยังมี Capture One Pro for Fujifilm ให้ใช้ฟรี ๆ ด้วยครับ
Fujifilm โดดเด่นในเรื่องของการจัดการ Noise มานานแล้วครับ ยิ่งกับ Fujifilm X-T30 ที่ใช้เซ็นเซอร์แบบ BSI ที่จัดการ Noise ได้ดีกว่าเดิม จะเห็นว่า แม้ ISO สูง ๆ อย่าง 6400 ไฟล์ภาพยังคงแสดงสีออกมาได้ตรง จุดของ Noise แสดงให้เห็นไม่เยอะ แม้กระทั่ง 25600 ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้เลยครับ กับ ISO ที่สูงขนาดนี้ ซึ่ง Fujifilm X-T30 สามารถขยาย Noise ได้ 80-51200 เลยทีเดียว
Fujifilm X-T30 เป็นกล้องที่ออกแบบมาให้เน้นใช้งานแบบกึ่งเริ่มต้นกึ่งมืออาชีพครับ การปรับค่าต่าง ๆ สามารถที่จะตั้งได้ Dial ได้อย่างอิสระว่าจะให้เป็นปรับค่าอะไร โดยด้านบนของตัวกล้อง จะมาพร้อมกับ Dial ทั้งหมด 3 Dial นั้นก็คือ
- ปรับโหมดการถ่าย เช่น โหมดถ่ายภาพเดี่ยว โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง โหมดถ่ายภาพ BKT โหมดถ่ายภาพพาโรนาม่า รวมไปถึงโหมดวิดีโอครับ
- ปรับสปีดชัตเตอร์ หนึ่งในความคลาสติคของกล้อง Fujifilm เลยครับ ที่ยังคง Dial ที่ไว้ปรับสปีดชัตเตอร์โดยเฉพาะ ให้ความรู้สึกกล้องฟิล์ม
- ปรับชดเชยแสง สามารถ ปรับได้ -3 ถึง +3
การใช้งานของผมนั้น เน้นไปที่ความง่ายและความสบายครับ จะตั้งรูรับแสงไว้ที่กว้างสุด แล้ว ปรับ ISO และ สปีดชัตเตอร์ ให้เป็น Auto ซึ่งตั้งค่านี้ก็สามารถถ่ายภาพที่ หลากหลายแนว แล้วครับ
โหมดการถ่ายหลัก ๆ นั้นก็จะเป็น S CL และ CH ครับ ซึ่ง Fujifilm X-T30 สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 30 ภาพต่อวินาที แบบครอป X1.25 และ 20 ภาพต่อวินาทีแบบไม่ครอป ครับ
ด้วยน้ำหนักกล้องที่มีอยู่ที่ 380 กรัม หากใส่เลนส์ Fix อย่าง 35mmf/2 จะทำให้น้ำหนักกล้องมีเพียงแค่ 500 กรัมเท่านั้น สามารถใส่กับกระเป๋ากล้องที่มีขนาดเล็กได้ โดยผมได้ลองใช้ Film Simulation แบบ Classic Chorme ที่ให้สีคล้ายกับฟิล์ม
ถ่ายภาพมุมกว้างด้วยเลนส์ Fujinon 10-24 mm f/4 OIS
สำหรับสายถ่ายวิว ถ่ายภาพมุมกว้าง ต้องมีเลนส์ไวด์ติดไว้สักตัวเลยครับ ผมได้ลองใช้ Fujifilm X-T30 กับ เลนส์ Fujinon 10-24 mm f/4 OIS ได้ภาพมุมกว้างที่มีคุณภาพที่ดีมากครับ ผมเอาเข้าโปรแกรม Lightroom แล้วปรับแก้ความโค้งของภาพ ซึ่งทำให้ได้ภาพออกมาเส้นตรงได้ง่ายมาก ๆ ครับ
ถ่ายภาพบุุคคลด้วยเลนส์ Fujinon 50mm f/2
มาลองเอา X-T30 มาถ่ายนางแบบบ้างครับ กับเลนส์ Fujinon 50mm f/2 ใช้คู่กับ Face/Eye AF ถ่ายสนุกเลยครับ ครั้งนี้ผมถ่ายแบบย้อนแสง ฟุ้ง ๆ แล้วนำมาแต่งโทนฟิล์ม เพิ่ม Gain ก็ได้โทนีสีที่ต้องการ แถมเลนส์ระยะ 50mm นี้ก็ละลายหลังสวยเลยครับ สามารถลองดูได้ที่รูปตัวอย่างได้เลยครับ
ถ่ายปลากัดในบ่อน้ำ
ผมลองเอาเลนส์ 35mm F/2 ถ่ายปลากัดที่อยู่ในน้ำครับ ซึ่งถ่ายยากพอสมควร ด้วยความที่ปลากัดตัวค่อนข้างเล็ก ผมนำไฟล์มาแต่งเพิ่มความสดของสี ให้ลายของปลากัดชัดขึ้น ตัวไฟล์ X-T30 ก็สามารถแสดงสีมาได้สวยงามมาก ๆ ครับ
สายถ่ายของกิน ก็หมดห่วงครับ สามารถที่จะตั้งโหมดสีให้เป็นแบบ Velvia เพื่อให้อาหารเป็นสีสด หรือ จะตั้งถ่ายปกติมาแล้วมาปรับแต่ง ผมใช้คู่กับเลนส์ Fujinon 35mm f/2 ก็ได้ภาพที่ละลายสวย ๆ มีมิติครับ
การถ่ายภาพช่วงแสงน้อยจากกล้อง Fujifilm X-T30 ไฟล์มีความยืดหยุนสูง Noise ไม่เยอะ และสามารถโฟกัสได้สบาย ๆ ครับ
ระบบโฟกัสดีขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะ Face/Eye AF!
Fujifilm X-T30 ใช้ระบบโฟกัสแบบ Hybrid มี Phase-Detect AF100% ที่สำคัญคือ X-T30 สามารถโฟกัสในที่มืดได้ดีกว่าเดิมมาก ๆ ในระดับ -3EV จากรุ่นก่อนหน้า X-T20 ทำได้เพียง -0.5EV เท่านั้นเองครับ จากการที่ผมได้ลอง โฟกัสที่ว่ารวดเร็วมาก โดยเฉพาะกับเลนส์รุ่นใหม่ ๆ ที่มีมอเตอร์โฟกัสที่ดีครับ
สิ่งที่เป็นไฮไลต์กว่านั้นคือ Face/Eye AF ที่พัฒนาขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม ซึ่ง X-T30 สามารถใช้ Face/Eye แบบ RealTime โดยไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เลยครับ ตัวกล้องจะตรวจจับใบหน้าให้อัตโนมัติ และก็สามารถเลือกให้โฟกัสเฉพาะ ตาซ้ายหรือตาขวาได้ รองรับทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ Hybrid Auto Focus System เป็นฟังก์ชั่นที่ทำให้เราสามารถเลื่อนจุดโฟกัสได้ ถึงแม้จะอยู่ในโหมด Auto ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ที่เราอยากขยับจุดโฟกัสให้แม่นยำขึ้นเวลาตัวกล้องเลือกจุดโฟกัสให้ครับ
กล้อง Fujifilm เดี๋ยวนี้มี AI แล้วนะ!
ยุคของ AI ฟูจิฟิล์มก็ไม่พลาดที่จะพัฒนาให้กับกล้องรุ่นใหม่ครับ โดยมาพร้อมกับโหมด SR Auto ที่ตัวกล้องจะคำนวณว่าเรากำลังถ่ายอะไร รวมไปถึงสภาพแวดล้อม แล้วตัวกล้องจะคำนวณเพื่อปรับแต่งให้เราอัตโนมัติ รวมไปถึง Enhance Excellent Skin Tone ที่ปรับแต่งสีผิวของเราให้สวย และยังธรรมชาติมาก ๆ ซึ่งสามารถดูได้ในโฆษณา Fujifilm X-T30 ตัวล่าสุด ที่แสดงโดย ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ได้เลยครับ
รองรับการ์ดแบบ USH-I และใช้แบตรุ่นเดิม NP-126S
การ์ดยังคงรองรับแบบ USH-I ซึ่งก็ยังคงทำงานได้ดีนะครับ สามารถอัด 4K ลงการ์ด USH-I ได้ไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ เพียงพอแล้วสำหรับกล้องแบบนี้ และในส่วนของแบตนั้น ก็ยังคงใช้แบตรุ่นเดิม รุ่นเดียวกับ X-T20 นั้นก็คือรุ่น NP-126S ใครที่มีอยู่แล้วก็สามารถเอามาใช้กับ X-T30 ได้เลยครับ โดย Fujifilm เคลมไว้ว่า สามารถถ่ายภาพได้ 380 ภาพต่อแบตหนึ่งก้อน และ ถ่ายวิดีโอได้ประมาณ 45 นาที ซึ่งหากใช้งานเต็มวัน ผมก็แนะนำให้มีแบตอีกสักก้อน สำรองไว้ดีกว่าครับ
ระบบเชื่อมต่อมี Bluetooth ที่ทำงานคู่กับ Wi-Fi แล้ว!
อันนี้ดีมาก ๆ ครับ การที่ X-T30 มี Bluetooth เข้ามาทำให้สามารถที่จะเชื่อมต่อมือถือเราตลอดเวลาได้ แล้วเมื่อไหร่ที่เราปิดเครื่อง ตัวกล้องก็จะส่งภาพเข้ามือถือให้เราในทันทีครับ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลามาคอยเชื่อมต่อใหม่ รวมไปถึงในส่วนของ Remote ก็สามารถควบคุมตัวกล้องภาพสมาร์ทโฟน ผ่านแอพ Fujifilm Camera Remote จากการทดสอบใช้งานก็สามารถส่งได้ภาพนิ่งและวิดีโอเลยครับ
วิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K 4:2:2 10bit !
นอกจากโดดเด่นในเรื่องของภาพนิ่งแล้ว Fujifilm ยังพัฒนาในเรื่องของวิดีโอให้ก้าวกระโดดเป็นอย่างมากครับ ด้วยพลังจาก X-Processor 4 ทำให้ X-T30 กล้องราคา 30,000 ต้น ๆ สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดถึง 4K 4:2:2 10bit ผ่านช่อง Micro HDMI สำหรับ External Recorder และสามารถอัด 4K 4:2:0 8bit ได้ในตัว ซึ่ง 4K สามารถอัดต่อเนื่องได้ 10 นาที และแบบ Full HD สามารถอัดต่อเนื่องได้ 15 นาที การ Slow motion ก็สามารถทำได้ถึง 120fps บน Full HD อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Film Simulation ให้เลือกเยอะแยะเลยครับ หรืออย่างอันใหม่ล่าสุด Eterna ที่จำลองสีแบบภาพยนตร์ และที่สำคัญ X-T30 สามารถต่อไมค์แยกได้ ผ่านช่อง 2.5mm ด้านข้าง รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่คลิปรีวิวเต็ม ๆ ได้เลยครับ
โดยรวมนั้นกล้อง Fujifilm X-T30 เป็นกล้องระดับกลางที่ทำงานได้ดีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเลยครับ ตามสไตล์กล้อง Fujifilm ที่มีไฟล์หลังกล้องที่ค่อนข้างสวย หากเปรียบเทียบกับรุ่น X-T20 นั้น ตัว X-T30 ก็พัฒนาขึ้นมาในหลาย ๆ ด้าน จนเป็นกล้องที่มีไฟล์ดี โฟกัสดี ใช้งานไม่ยากครับ เพียงแต่ว่าจุดสังเกตของ Fujifilm คือจะมีกันสั่นมาให้ในเฉพาะรุ่น X-H เท่านั้น รุ่นระดับกลางไม่มีกันสั่นครับ แต่ก็แลกมาด้วยความเล็กและเบาของบอดี้ ยิ่งติดกับเลนส์เล็ก ๆ ของฟูจิฟิล์ม ยิ่งทำให้เป็นกล้องที่พกง่ายถ่ายสะดวกเลยครับ เหมาะกับการติดตัวไปตลอด
มองในเรื่องของคุณภาพภาพนั้น ก็หายห่วงได้เลยครับ ใช้เซ็นเซอร์และหน่วยประมวลผลเดียวกับรุ่นพี่ X-T3 สมกับที่ Fujifilm บอกว่าเป็นกล้อง “the Little Giant” ตัวเล็กแต่ข้างในไม่เล็กตาม จน Fujifilm ทำให้กล้องขนาดเล็กของตัวเอง สามารถถ่ายวิดีโอแบบ 4K 4:2:2 10 Bit ได้
มองในเรื่องราคากันบ้างครับ Fujfilm ได้เปิดตัวในราคาที่ต่ำกว่าสมัย X-T20 ด้วยครับ เริ่มต้นที่ 31,990 บาทสำหรับบอดี้ พร้อมเลนส์ Kits 15-45mm ราคา 34,990 บาท พร้อมเลนส์ Kits 18-55 ราคา 44,990 บาท และชุดพิเศษสำหรับร้าน Big Camera พร้อมเลนส์ 35mm f/2 ราคา 37,990 บาท และยังมีสีพิเศษ สีชาโคลที่เฉพาะร้าน Big Camera เช่นกันครับ พร้อมวางจำหน่ายแล้วครับผม สำหรับใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Fujifilm X-T30 ก็สามารถทักเข้าที่เพจ ThePeakFoto ได้เลยครับ^^