หลักจากในงาน WWDC Apple ได้เปิดตัว Apple Music บริการ Music streaming (ข่าว) วันนี้ทางทีมงานได้ลองใช้งาน Spotify มานานร่วมๆ ครึ่งปี โดยจุดเด่นของ Spotify จะมีเพลงสากล แทบทั่วทั้งโลก รวมถึงมีเพลงไทยจากค่าย GMM Grammy และ LoveIS (ข่าว) วันนี้ทางทีมงานจะมารีวิวให้ดูครับ
เริ่มต้น
ดาวน์โหลดได้ที่ – IOS, Android, Computer ชึ่งในสมาร์ทโฟนจะไม่สามารถใช้งานผ่าน store ของไทยได้นะครับ ต้องเปลี่ยนเป็นของต่างประเทศก่อน
โหลดมาเสร็จแล้วก็ Login ครับ สามารถเลือกได้ว่าผ่าน อีเมล หรือ เฟสบุ๊ค (มีทั้งบน สมาร์ทโฟน และ คอมพิวเตอร์)
การใช้งาน (บน Smartphone )
เปิดมาเริ่มแรก จะเป็นหน้า BROWSE จะมีคำแนะนำต่างๆ แชร์เมนู พอปัดช้ายจะมาช่องให้เลือกเมนูหลักโดยมีให้เลือกเป็น Search, Browse, Running, Activity, Radio, Your Music และ Sittings ตามลำดับ เมื่อเราเปิดเพลงแล้ว แถบ การเล่นจะอยู่ด้านล่างครับ
ด้านบนเป็น search Admin ได้ลองหาหลายๆอย่างแล้ว ส่วนใหญ่ก็เจอครับ ถัดลงมาเป็น Radio เป็นวิทยุ สำหรับที่ติดตามไว้และทาง Spotify แนะนำมา
ถัดลงมาเป็น Your Music เป็นเพลงที่เรากดมาเก็บไว้ฟังประจำ หรือประมาณว่ารายการโปรด
สำหรับ Sitting จะแบ่งแยกออกมาเป็น Account, Playback, Social, Music Quality, Notification และ ก็ About โดยโหมดที่ผมนะเสนอจะเป็นโหลดสำคัญนะครับ เริ่มตั้งแต่ Playback สามารถตั้ง Crossfade ได้ครับว่าจะเอากี่วิ (การค่อยๆเพิ่มและลดเสียงตอนเริ่มและเสร็จ), Hide Unplayable Song, Equalizer (ปรับได้ทั้งเป็นโหมดและตามต้องการ) และ Play Feedback Sound ในส่วนของ Social จะเป็นการตั้งค่าเกี่ยวกับการโชว์กิจกรรมต่างใน Spotify
ลงมาเป็น Music Quality ของ Spotify ชึ่งจะสามารถปรับความละเอียดของเสียงได้ตั้งแต่ 96 kbit/s สำหรับแบบธรรมดา 160 kbit/s สำหรับแบบสูง และ 320 kbit/s สำหรับแบบสุงสุด ชึ่งผมปรับเป็นแบบ ขั้นสูงสุดแบบไม่คิดเลยครับ เพราะการที่คุณลองฟังเสียงดีๆแล้วจะไม่ค่อยอยากฟังเสียงแบบความละเอียดตำ่ๆ สักเท่าไหร่ แล้วสุดท้ายคือ account จะโชว์ว่าเป็นแแบฟรีหรือแบบเสียเงินรายเดือนครับ (อันนี้เป็น Premium เสียเงินครับ)
การใช้งาน (บนคอมพิวเตอร์)
หลักๆ แล้วค่อนข้างเหมือนกันครับ แต่จะมีพื้นที่ในการใช้งานที่มากกว่า ส่วนการตั้งแต่จะไปอยู่ด้านบนฝั่งขวาแทนครับ
เมนูต่างๆ
สรุป
สำหรับผมเลยตัว Stofity ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เมื่อเทียบกับ Apple Music เพราะว่าใช้งานง่าย มีแทบทุกบบปฏิบัติการ ราคาพอๆกัน ส่วนของเรื่องเพลง เนื่องด้วย Admin ยังไม่ได้ลองบริการของ Apple Music จึงไม่สามารถให้คำตอบได้ครับ แต่คาดว่าคงไม่ต่างกันมาก หากเมื่อเทียบกับบริการอย่าง KKBox (เน้น GMM Grammy) หรือ Deezer (เน้น RS) ต้องขอบอกว่า Admin ก็ยังไม่ลองเช่นกันครับ แต่ด้วยราคา Spotify ราคาสูงอยู่พอสมควร (ราคาอยู่ที่ $9.99 (3xx บาท) แต่ KKBOX และ Deezer ราคาไม่ถึง 100 บาท) แต่ตอนนี้มีบริการที่น่าสนใจอย่าง TIDAL เป็นบริการ Music Streaming คุณภาพสูงระดับ ไฟล์ Flag (1411 kbit/s) เรียกได้ว่าสูงมากพอสมควร แต่ก็อย่าลืมหาหูฟังดีๆ มาใส่ด้วยนะครับ ไม่งั้นจะแสดงออกมาได้ไม่เต็มประสืทธิภาพ โดย เพลงที่ทาง TIDAL ให้บริการ จะเป็นเพลงสากลจากค่าย Big Three คือ Sony Music, Universal Music และ Warner Music ซึ่งน่าจะครอบคลุมความต้องการของเหล่าคอเพลงสากล
ตอนนี้ถือว่าบริการ Music Streaming เป็นบริการที่มีผู้ต่อสู้มากเลยทีเดียวครับ ทั้ง Apple Music, Spotify, KKBox, Deezer, Google Play Music รวมถึง TIDAL อีกด้วย ยังไม่นับรวมบริการที่ยังไม่รู้จักอีกด้วยนะครับ สำหรับคนที่สนใจ Spotify จะมีให้เลือก 2 แพ็กเกจนะครับ 1. แบบฟรี สามารถฟังเพลงในความละเอียดขั้นพื้นฐาน และมี โฆษณา 2. แบบ Premium ราคาเดือนละ $9.99 สามารถฟังได้ความละเอียดที่สูงกว่า ไม่มีโฆษณา และสามารถโหลดไปฟังได้ครับ
เพิ่มเติม
– อาจมีข่าวดีเร็วๆนี้ Spotify บริการฟังเพลงออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก เริ่มมีเพลงไทยเข้ามาให้บริการแล้ว!