อุปกรณ์คาริเบทหน้าจอ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่คนทำงานด้านการถ่ายภาพ ต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอน! สำหรับในวันนี้ทีมงาน The Peak Foto จะพาไปดูอุปกรณ์คาริเบทหน้าจอยี่ห้อ datacolor ในรุ่น Spyder 5 Express ซึ่งทีมงานเชื่อว่าหลายๆคนคงต้องคุ้นกับชื่อยี่ห้อนี้แน่นอน เนื่องจากปัจจุบันได้ผลิตมาถึงรุ่นที่ 5 แล้ว
สำหรับตัวที่จะมารีวิวในตอนนี้จะเป็นรุ่น Express ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุด เน้นทำออกมาให้กับคนทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการปรับค่าหรือซีเรียสอะไรมานัก ในส่วนของความแตกต่างของแต่ละรุ่นนั้นจะอธิบายอยู่ในด้านล่างบทความนี้ครับ
แกะกล่อง – Unbox
ภายในตัวกล่อง ก็จะมีตัวเครื่อง Spyder5 นอนรอให้เราคาริเบท โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับฝาปิดและสาย USB ยาวประมาณ 140 เซ็นติเมตร และภายในกล่องจะมี Serial Number ไว้สำหรับ Active เข้ากับโปรแกรม
เริ่มต้นใช้งาน
การใช้งานก็ง่ายมากครับ อย่างแรกเราต้องลงโปรแกรมก่อน โดยสามารถคลิ๊กที่ปุ่มดาวน์โหลดด้านล่างได้เลย เมื่อลงโปรแกรมแล้ว ตัวโปรแกรมจะถามถึง Serial Number ซึ่งอยู่ในกล่องเราก็ใส่เข้าไปเลยครับ
เรามาเริ่มคาริเบทกันเลยครับ โดยตัวโปรแกรมจะเตือนทั้งหมด 4 อย่างด้วยกัน
- ตัวจอควรมีการใช้งานมาแล้วประมาณครึ่งชั่วโมง
- ไม่ควรมีแสงไฟกระทบกับหน้าจอโดยตรง แต่ไม่จำเป็นต้องมืดนะครับ แต่ต้องไม่สว่างมาก
- ควร Factory Reset หน้าจอ พร้อมกับปรับอุณหภูมิจอไว้ที่ 6500K และปรับแสงหน้าจอให้สบายตามากที่สุด
- ตรวจเช็คว่าเราเสียบ Spyder5 เข้ากับช่อง USB แล้วหรือยัง
หลังจากนั้นก็จะให้เลือกระหว่าง Desktop หรือ Laptop
ตรวจสอบว่าจอของเราเป็นรุ่นเดียวกับที่โปรแกรมแจ้งไว้หรือไม่
มาถึงขั้นตอนที่เราจะติดตั้งเครื่องคาริเบตเข้ากับจอแล้ว! โดยวิธีนั้นง่ายมากครับเราก็ห้อยเจ้าเครื่อง Spyder ไว้ด้านบนของจอ โดยใช้ฝาปิดของตัวเครื่องเป็นตัวถ่วงน้ำหนัก ซึ่งฝาปิดจะสามารถปรับระดับได้ด้วยการดึงสาย
สิ่งสำคัญนั้นก็คือตัวเครื่องคาริเบต ต้องติดเข้ากับหน้าจอ โดยทีมงานมีวิธีแนะนำง่ายๆ อยู่สองแบบ
- เอียงหน้าจอขึ้นเพื่อให้เครื่องราบไปกับหน้าจอ
- ใช้สก๊อตเทปติดเครื่องคาริเบตเข้ากับหน้าจอ
หลังจากนั้นเราก็นั่งชื่นชมประสิทธิภาพของจอตัวเองครับ (ฮ่า) ตัวโปรแกรมจะรันสีไปเรื่อยๆ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้วครับ หลังจากเสร็จตัวโปรแกรมจะให้เราตั้งชื่อเพื่อเซฟ Profile สีของเราเก็บไว้ได้
หลังจากคาริเบท
ภาพด้านบนเป็นภาพก่อนคาริเบต ภาพด้านหลังเป็นภาพหลังคาริเบต
ของผมใช้กับจอ Dell U2417H ที่ขึ้นชื่อเรื่องคาริเบตดีมาจากโรงงาน แต่การที่เราใช้หน้าจอไปทุกๆวัน ตัวจอจะมีการเปลื่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ทำให้การคาริเบตเป็นระยะๆก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งตัวโปรแกรมเวลาเราคาริเบทเสร็จ จะมีรูปตัวอย่างให้เราสามารถกดเข้าไปเพื่อเปรียบเทียบและชื่นชมความเพี้ยนของจอเราครับ ฮ่าๆ
จากภาพจะเห็นได้ว่าตัวจอของผมนั้นมีอาการติดฟ้าอย่างเห็นได้ชัด (ภาพด้านบนก่อนคาริเบท) ซึ่งภาพนี้ค่อนข้างอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าสีเพี้ยนแล้วจะเป็นประมาณไหน
อีกหนึ่งตัวอย่างกับภาพขาวดำ มีความแตกต่างที่ชัดเจนมากๆครับ
เมื่อถ่ายภาพบุคคล สีผิวก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ ซึ่งก่อนคาริเบทจอของผมติดฟ้า ทำให้เวลาแต่งรูปชอบที่จะปรับสีผิวให้เหลืองกว่าเดิม เป็นผลให้เวลามาดูกับจอที่ผ่านการคาริเบตสีผิวจะยิ่งเหลืองขึ้นไปอีก
ตัวโปรแกรม Spyder จะรันอยู่ตลอดเวลา โดยเราสามารถเลือกเปิดหรือปิดการคาริเบทได้
สามารถอัพเกรดเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นได้
สำหรับสินค้าในซีรีส์ของ Spyder5 นั้นมีการแยกออกมาเป็นสามรุ่นหลักๆ ได้แก่รุ่น Express, Pro และ Elite ซึ่งข้อแตกต่างระหว่างสามตัวนี้ สามารถดูได้ที่ตารางด้านล่าง ซึ่งหากใครที่ซื้อตัว Express มาก็สามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อโปรแกรมของรุ่นที่สูงกว่าได้
สำหรับข้อแตกต่างหลักๆของสามรุ่นนี้ จะอยู่ที่การปรับค่าหลังคาริเบทไปแล้ว ซึ่งรุ่น PRO+ จะปรับได้ 4 ค่า และรุ่น ELITE+ จะปรับได้แบบไม่จำกัด หรือใครที่ต้องการจะคาริเบท Projector ก็ต้องซื้อรุ่น Elite ถึงจะสามารถทำได้
สรุป
Spyder5 ในรุ่น Express ถือว่าเป็นอุปกรณ์คาริเบทที่เหมาะกับ คนที่ไม่ได้จริงจังมากนัก เนื่องจากในรุ่น Express ตัวนี้ไม่สามารถปรับแต่งค่าสีอะไรได้เลย พูดง่ายๆว่าตัวอุปกรณ์คาริเบทให้ยังไง เราก็ต้องใช้ไปแบบนั้น ซึ่งตัวอุปกรณ์ก็คาริเบทมาให้อยู่ในระดับที่พอใช้งานได้แล้ว แต่หากใครที่ต้องการ Advance อยากได้ฟังก์ชั่นอื่นๆเพิ่มเติม ก็สามารถอัพเกรดได้ครับ
ประสิทธิภาพการใช้งานหรือความเสถียรของโปรแกรมนั้นครับ ทำออกมาได้ค่อนข้างโอเคเลยครับ ใช้งานง่าย ไม่มีอาการค้างหรือเอ๋อใดๆ ในส่วนของราคาอยู่ที่ราวๆ 5,900 บาท และหากใครมีของสงสัยเพิ่มเติมก็สามารถส่งข้อความมาได้ที่แฟนเพจ Facebook ของเราหรือติดต่อบริษัทผู้นำเข้า Advanced Photo Systems ได้ที่ปุ่มด้านล่างนี้
ติดต่อบริษัทผู้นำเข้า Advanced Photo Systems