วันที่ 22 กุมพาพันธ์ ค.ศ. 2019 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น - บริษัท RICOH COMPANY จำกัด และบริษัท RICOH IMAGING COMPANY จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวกล้อง RICOH GR III กล้องดิจิตอลคอมแพครุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการออกแบบให้มีความลงตัวทั้งในด้านของน้ำหนัก และขนาดที่กะทัดรัด การตอบสนองการใช้งานที่รวดเร็ว และคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้เป็นกล้องคอมแพคระดับไฮเอนด์ที่เพียบพร้อมสำหรับผู้หลงไหลในการถ่ายภาพ และช่างภาพในทุกระดับ
กล้องในซีรีส์ GR นั้น เป็นกล้องที่ได้รับการออกแบบในแนวคิดที่พิเศษ โดยต้องให้ทั้งคุณภาพของภาพถ่ายในระดับที่ยอดเยี่ยม การตอบสนองที่ว่องไวสำหรับการถ่ายภาพแบบสแนป และขนาดที่กะทัดรัดสามารถพกพาได้ทุกวัน โดยกล้อง GR III รุ่นใหม่นี้ได้รับการออกแบบ และใช้เทคโนโลยีล่าสุดจาก Ricoh ไม่ว่าจะเป็นชุดเลนส์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ เซนเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ และระบบประมวลผลใหม่ล่าสุด ทั้งยังได้รับการออกแบบภายนอกใหม่ให้มีขนาดที่เล็กลงกว่ารุ่นเดิมอีกด้วย
กล้อง GR III ใช้เซนเซอร์รับภาพแบบ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 24.24 ล้านพิกเซล เริ่มทำงานได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเปิดพร้อมใช้งานเพียง 0.8 วนาที จึงตอบสนองความต้องการในการถ่ายภาพได้ในทันที ร่วมด้วยระบบโฟกัสแบบ Hybrid AF ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง ภายในตัวกล้องยังมีระบบป้องกันการสั่นไหว SR (Shake Reduction) และหน้าจอแสดงผลระบบสัมผัสที่ช่วยให้การควบคุมกล้อง และระบเมนูต่างๆ ภายในกล้องสามารถทำได้ง่าย และสะดกวยิ่งกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังรองรับการอัพเกรด FW ที่สามารถเพิ่มความสามารถต่างๆ ของกล้องได้อีกด้วย ในด้านของการเชื่อมต่อนั้นรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย และใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C™ ซึ่งได้รับความนิยม และมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม ทั้งหมดนี้เป็นการยกระดับให้กล้อง GR III มีทั้งคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความพร้อมที่จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้รักการถ่ายภาพ และช่างภาพทุกระดับ
คุณสมบัติหลัก
1. Newly designed, high-resolution GR lens กล้อง GR III ติดตั้งเลนส์ GR ทางยาวโฟกัส 18.3mm ความสว่าง F2.8 ซึ่งมีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูง โดยที่ยังคงมีขนาดเล็กกะทัดรัด ตัวเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 6 ชิ้น แบ่งเป็น 4 กลุ่ม โดยมีทางยาวโฟกัสเทียบเท่าเลนส์ 28mm (ในระบบกล้อง 35mm) ชิ้นเลนส์ภายในนั้นประกอบด้วยชิ้นเลนส์ที่มีดัชนีหักเหแสงสูง (High-refraction) ชิ้นเลนส์ที่ช่วยลดความคลาด (Low-dispersion) รวมถึงชิ้นเลนส์พิเศษอย่าง Glass-molded Aspherical lens ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ช่วยให้เลนส์ถ่ายทอดภาพถ่ายได้อย่างคมชัด และให้ภาพที่ใสที่สุดเมื่อเทียบกับกล้องซีรีส์ GR ที่เคยมีมาทั้งหมด ทั้งยังเป็นเลนส์ที่มีความบิดโค้ง และความคลาดต่ำ แก้ไขอาการแสงแฟลร์ และแสงหลอนที่เกิดจากการถ่ายภาพย้อยแสงได้อย่างดีเยี่ยม ให้ภาพที่มีความเปรียบต่างสูง มีรายละเอียดสูง พร้อมด้วยความสามารถในการโฟกัสใกล้เมื่อใช้ระบบมาโครที่ใกล้เพียง 6 เซนติเมตร ทั้งยังติดตั้งฟิลเตอร์ ND (Neutral Density) ภายในตัวเลนส์ที่สามารถช่วยลดค่าแสงลงได้ถึง 2 สตอป ร่วมด้วยม่านช่องรับแสงที่มากถึง 9 ใบ ที่ช่วยให้เบลอฉากหลังและได้โบเก้ที่สวยงามเป็นธรรมชาติที่ช่องรับแสงกว้าง รวมถึงได้ลำแสงที่สวยงามเมื่อใช้ช่องรับแสงที่แคบลง
2. High-quality, high-resolution images กล้อง GR III ใช้เซนเซอร์รับภาพขนาด APS-C ความละเอียด 24.24 ล้านพิกเซล โดยเป็นเซนเซอร์แบบ CMOS ที่ไม่มีฟิลเตอร์ AA (Anti-Aliasing) เพื่อช่วยให้เซนเซอร์ได้รับคุณภาพสูงสุดจากเลนส์อยู่เสมอ ร่วมด้วยระบบประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด GR ENGINE 6 ที่ช่วยถ่ายทอดคุณภาพ และรายละเอียดสูงสุดในทุกภาพถ่าย ให้สีสันที่สวยงาม และมีเอกลักษณ์ชวนหลงไหล กล้องรุ่นนี้รองรับการบันทึกไฟล์ภาพแบบ RAW 14-bit และรองรับค่าความไวแสงสูงโดยสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง ISO 102400
3. Hybrid AF system for high-speed autofocus operation ระบบโฟกัสแบบ Hybrid AF ภายในกล้องรุ่นนี้ คือ การทำงานร่วมกันอย่างลงตัวของการโฟกัสแบบ Contrast-type AF ที่มีความแม่นยำสูง และ Phase-detection-type AF ที่มีความรวดเร็ว การทำงานร่วมกันนี้ช่วยให้กล้องสามารถโฟกัส และตอบสนองการต่อการถ่ายภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. Originally developed SR mechanism ・ระบบป้องกันการสั่นไหว SR (Shake Reduction) ทำงานแบบ 3 แกน และมีประสิทธิภาพในการช่วยลดการสั่นไหวได้ถึง 4 สตอป โดยระบบจะตรวจสอบ วิเคราะห์ และชดเชยการสั่นไหวที่เกิดขึ้นให้ลดน้อยลงเมื่อกดชัตเตอร์ ・ฟังก์ชั่น AA Filter Simulator* ภายในกล้องทำงานโดยการขยับเซนเซอร์รับภาพอย่างแม่นยำในระดับพิกเซลในขณะที่บันทึกภาพ เพื่อจำลองผลของภาพให้เสมือนว่ากล้องยังคงมีฟิลเตอร์ AA (Anti-Aliasing) อยู่ การทำเช่นนนี้เพื่อช่วยลดอาการลายเสื่อ (Moiré) ที่อาจเกิดขึ้นบนบางวัตถุในภาพถ่าย โดยฟังก์ชั่นนี้สามารถเลือกเปิด/ปิด และเลือกระดับการทำงานได้ตามต้องการ
* ฟังก์ชั่นนี้ใช้ได้ที่ความเร็วชัตเตอร์น้อยกว่า 1/1000 วินาที เท่านั้น
5. Compact, functional body design แม้ว่าตัวกล้อง GR III จะใช้เซนเซอร์ที่มีขนาดใหญ่แบบ APS-C แต่ยังคงสามารถออกแบบตัวกล้องได้เล็กกะทัดรัดอย่างไม่น่าเชื่อ โดยกล้องรุ่นนี้มีขนาดเล็กเท่ากับกล้องรุ่น GR DIGITAL IV ในอดีตที่ใช้เซนเซอร์ขนาดเพียง 1/1.7 นิ้วเท่านั้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำแนวคิดการออกแบบกล้องซีรีส์ GR ที่เน้นเรื่องความกะทัดรัด และความสะดวกในการพกพาให้ก้าวข้ามขีดจำกัดขึ้นไปอีกขั้น ในขณะที่ตัวกล้องยังคงรักษาความยอดเยี่ยมในเรื่องการจับถือ และการควบคุมกล้องที่สามารถทำได้อย่างสะดวก ด้วยการจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ ในตำแหน่งที่ลงตัว มีระบบเมนูที่เข้าถึงง่ายจอระบบสัมผัส ทั้งยังมีความเรียบง่าย และเป็นมิตรกับช่างภาพทุกระดับ ออกแบบให้มีความพร้อมถ่ายภาพในทันทีที่นำกล้องยกขึ้นด้วยความเร็วในการเปิดกล้องเพียง 0.8 วินาที จึงไม่พลาดจังหวะสำคัญที่อาจเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว นอกจากนี้ตัวกล้องยังใช้แมคนีเซียมอัลลอยย์ขึ้นรูปเป็นเฟรมกล้องทั้งชิ้น ซึ่งเป็นวัสดุคุณภาพสูง มีน้ำหนักเบา และมีความทนทาน
6. High-definition LCD monitor with intuitive touch-screen operation กล้อง GR III ติดตั้งจอแสลงผลขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1,037,000 พิกเซล และเป็นครั้งแรกของกล้องซีรีส์ GR ที่ใช้จอภาพระบบสัมผัส ซึ่งมีส่วนช่วยให้สามารถควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ในตัวกล้องได้สะดวกยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น การย้ายกรอบโฟกัส การเลือกเมนูต่างๆ การขยายภาพ และการชมภาพที่ถ่ายแล้วก็สามารถทำได้สะดวกกว่าที่เคย จอแสดงผลนี้เป็นแบบ Air Gapless คือ ไม่มีช่องว่างด้วยการเติมเรซิ่นชนิดพิเศษระหว่างตัวจอ และกระจกที่ปกป้องด้านบนสุด เทคนิคนี้จะลดแสงสะท้อน และการกระจายแสงของจอช่วยให้สามารถมองภาพ และเมนูต่างๆ ได้อย่างชัดเจนแม้ในกลางแจ้ง ทั้งยังมีระบบ Outdoor View Setting ที่สามารถปรับความสว่างของจอให้เหมาะสมกับสภาพแสงในสถานที่นั้นๆ ได้
7. Image Control function to produce desire visual effects กล้อง GR III มีฟังก์ชั่น Image Control ที่สามารถปรับโทนสี และคาแรคเตอร์ต่างๆ ในภาพถ่ายได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถเลือกปรับได้มากถึง 10 ตัวเลือก อาทิ ความสดใสของสี, โทนสี, ความเปรียบต่าง และเกรนภาพ* ด้วยอิสระในการปรับตั้งค่าเหล่านี้ จึงสามารถสร้างสไตล์ของภาพตามที่ต้องการได้อย่างง่ายได้ และสามารถสร้างชุดของการตั้งค่าที่ต้องการเก็บไว้เลือกใช้ในฟังก์ชั่นนี้เพิ่มเติมได้อีกด้วย
* ตัวเลือกนี้จะมีเพิ่มเติมผ่านการอัพเดตเฟิร์มแวร์
8. Bluetooth® and wireless LAN dual communication กล้อง GR III มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายที่ครบถ้วนทั้ง Bluetooth® และ Wi-Fi เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้ง่าย และมีความเสถียรสูงผ่านแอปพลิเคชั่น Image Sync* ซึ่งสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น แสดงภาพจากกล้อง, ควบคุม และสั่งถ่ายภาพ, โอนถ่ายภาพจากในกล้อง เป็นต้น สำหรับ Bluetooth® นั้นจะมีส่วนช่วยในการเชื่อมต่อให้มีความเร็ว และง่ายกว่าเคย ทั้งยังสามารถแนบข้อมูลของตำแหน่งที่ถ่ายภาพลงในภาพได้ด้วยโดยอาศัยการส่งข้อมูลจากแอปพลิเคชั่น Image Sync ที่ใช้งานคู่กัน
* ต้องอัพเดตแอปพลิเคชั่นก่อนใช้งาน
9. คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ ・บันทึกภาพเคลื่อนไหว Full HD (1920 x 1080 พิกเซล, ที่ 60 เฟรม/วินาที) ที่รูปแบบ H.264 ・โหมดครอปภาพ เทียบเท่ามุมมองจากเลนส์ 35mm (15 ล้านพิกเซล) หรือ 50mm (7 ล้านพิกเซล) ในระบบกล้อง 35mm ・ปุ่ม ADJ และปุ่ม Fn ที่สามารถปรับเปลี่ยนค่าต่างได้หลากหลายตามต้องการ ・ระบบ In-camera RAW Development ที่ช่วยในการปรับแต่งค่า และแปลงไฟล์ RAW ได้ภายในตัวกล้อง ・ฟังก์ชั่น Color Moiré ที่ช่วยลดอาการลายเสื่อ (Moiré) ที่เกิดขึ้นในภาพได้หลังจากที่ถ่ายภาพแล้ว ・โหมด Interval Composite ที่สามารถบันทึกภาพทิวทัศน์ต่างๆ ควบคู่ไปการเคลื่อนที่ของดวงดาวได้อย่างลงตัว ・ระบบ Electronic Level ภายในกล้องเพื่อการตรวจสอบระนาบต่างๆ ในการตั้งกล้องได้อย่างแม่นยำ ・รองรับเลนส์เสริมมุมกว้างรุ่น GW-4 (อุปกรณ์เสริม) ที่ช่วยให้เลนส์มีทางยาวโฟกัสกว้างขึ้นเป็น 21mm ・รองรับการใช้งานกับแฟลชของ PENTAX ได้เต็มระบบ*
* รองรับแฟลชรุ่น AF540FGZ II, AF360FGZ II, AF540FGZ, AF360FGZ AF201FG แล AF200FG
ข้อมูลเพิ่มเติม >> http://news.ricoh-imaging.co.jp/rim_info2/2019/20190222_027255.html?_ga=2.134021831.830746492.1550801262-655174511.1527736611 >> http://www.ricoh-imaging.co.jp/english/products/gr-3/?utm_source=rim_top_mv_e&utm_medium=banner&utm_campaign=gr3_product
ศูนย์บริการกล้อง Ricoh และ Pentax (บริษัท อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด) : โทร 02 392 3130