ล่าสุดทาง Sony ได้เปิดตัว Sony A6300 มีการกล่าวขานมากพอสมควรในด้านสเปคได้มีการพูดถึงพอสมควร ว่าโหดมาก แต่ก็มีหลายคนตั้งคำถามมาว่า จะหันไปชื้อ Sony A6000 ดีในราคาที่ถูกกว่า วันนี้ทีมงานได้นำมาเปรียบเทียบให้ชมกันครับ
ทำความรู้จัก Sony A6300
Sony A6300 (ชื่อเต็มว่า Sony ICEL 6300 กับ Sony Alpha 6300 ชึ่งไม่ต้องไปจำหรอก A6300 นะดีละ) ชึ่งเป็นตัวแทนของ Sony Nex 7 ไม่ใช่ตัวแทนของ Sony A6000 แต่อย่างใด Sony Nex 7 เป็นรุ่น Top ของตระกูล Sony Mirrorless เซนเซอร์ขนาด APS-C (X1.5)
ตารางเปรียบเทียบ Sony A6300 vs Sony A6000
Sony A6300 | Sony A6000 | |
เปิดตัว | 3/2/2016 | 12/2/2014 |
Sensor | ||
Pixel | 24.2 MP | 24.3 MP |
Size | APS-C | APS-C |
Image Processor | Bionz X | Bionz X |
ISO | 100-25600 (Extent to 51,200) | 100-25,600 (Extent to 51,200) |
Speed Shutter | 30-1/4000 SEC | 30-1/4000 SEC |
ถ่ายต่อเนื่อง | 11 ภาพต่อวิ ( 8 ภาพต่อวิ เมื่อเปิด Live View) | 11 ภาพต่อวิ |
Speed Flash | 1/160 | 1/160 |
Material | ||
Body | Full Magnesium Alloy Body | Magnesium Alloy (Top and Back) Front Polycarbonate |
กันละอองนำ้ | Yes | No |
Focus | ||
จุดโฟกัส | 425 จุด | 179 จุด |
169 จุด แบบโชน | 25 จุด แบบโชน | |
ความเร็ว (เครม) | 0.05 วิ | 0.06 วิ |
ใช้งานกับ เลนส์นอกค่ายได้เต็มประสิทธิภาพ | Yes | No |
Screen | ||
ขนาดจอ | 3.0 นิ้ว | 3.0 นิ้ว |
ความละเอียด | 921.6k | 921.6k |
Tilting | ลง 90 องศา ขึ้น 45 องศา | ลง 90 องศา ขึ้น 45 องศา |
Viewfinder | ||
ขนาด EVF | 0.39 นิ้ว | 0.39 นิ้ว |
ความละเอียด | 2359.4 k | 1,440k |
ราคา | ||
Body | 39,990 บาท | – |
Body + Kits | 46,990 บาท | 27,990 บาท |
จากที่สังเกตุ Sony A6300 ดีกว่าหลายอย่างเลยครับ เรามาดูเป็นข้อๆ และ เจาะลึกกันบ้างว่า A6300 ดีกว่าอย่างไร
เซนเซอร์ / ระบบประมวลผล
ถึงแม้ว่า จะเป็น Bionz X เหมือนกันแต่ตัว Sony A6300 ก็ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยใช้ Copper Wiring รับแสงได้มากขึ้น รับข้อมูลได้มากขึ้น การจัดการ Noiseดีมากขึ้น โดยทั้งคู่สามารถดัน iso สูงสุดที่ 51200
View Finder ที่ดีขึ้นม้ากกกกกก
View Finder ตัวใหม่มีความละเอียดถึง 2.36 ล้าน สูงกว่าตัวเก่า เท่ากว่าๆเลยทีเดียว แถมยังมีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 100 เฟรมต่อวิ อย่างถามว่าเร็วแค่ไหน เร็วกว่า TV ทุกบ้าน 4 เท่า พูดง่ายๆ
ระบบะโฟกัสที่ดีกว่าเดิม ไม่มีหลุด! แถมกินเลนส์นอกค่ายได้อีก
Sony A6300 มาพร้อมกับ จุดโฟกัสแบบธรรมดา 425 จุด ( A6000 169 จุด) และ จุดโฟกัสแบบพิเศษ หรือ แบบเป็นกลุ่ม 179 จุด (A6000 25 จุด) จุดเด่นไปกว่านั้น คือ สามารถกินเลนส์นอกค่ายได้หมด ไม่ว่าจะเป็น Canon, Nikon, Sigma, Tamron ที่โครตเจ๋งคือ สามารถใช้เลนส์ Lecia ที่เป็นแบบโฟกัสหมุนมือ ทำเป็น Auto ได้น้ำตาไหลลล ที่ขาดไม่ได้ และ พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เลนส์ Sony เอง ที่เป็น A-Mount (เลนส์ DSLR จาก Sony) ทั้งนี้ก็ต้องผ่าน Adapter ด้วยนะครับ
คุณภาพการประกอบที่เรียกว่ากล้องโปรได้แล้ว
ตัว Sony A6300 ใช้ Body เป็น Magnesium Alloy Body ทั้งตัว แตกต่างจากที่ Sony A6000 ใช้ Magnesium Alloy เพียงด้านบนกับด้านหลัง
วิดิโอคุณภาพ 4K ! พร้อมฟังชั่นระบบเทพ
อีก 1 จุดที่ทำให้ตัวนี้เด่นขึ้นมาจากตัวเก่ามากๆ ก็คือ การถ่ายวิดิโอแบบ 4K ที่เป็นการบันทึกภาพในตัวกล้องครับ มี Bitrate สูงถึง 100 Mbps! อย่างถามว่าเทพขนาดไหน มันสามารถเทียบ Sony A7R II กับ A7S II ได้ แต่ถ้าไม่เห็นภาพอีก มันเกินความจำเป็นที่ลง Youtube แบบคุณภาพสูงสุด เกือบ 3 เท่า ( Youtube ใช้ Bitrate 4K อยู่ที่ 35 Mbps (อ้างอิง))
แต่หากใครยังคิดว่า 4K ไม่จำเป็น ในส่วนของ Full HD นั้นก็บันทึกได้ Bitrate สูงถึง 50 Mbps (เยอะกว่า Bitrate 4K บน Youtube อีก) แถมได้ เฟรมเรตสูงถึง 100 เฟรมต่อวิ เยอะกว่าความจำเป็นที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน 4 เท่า แต่ในส่วนของ Full HD ตัว Sony A6000 ก็สามารถทำได้ที่ 50 เฟรมต่อวิ แต่ Bitrate แค่ 28 Mbps นะครับ
จุดเด่นที่ทำให้สายวิดิโอ ร้องกรี๊ดเลยก็คือ S-Log 3 ต้องเล่าก่อนว่า S-Log3 เป็น Picture Style ชนิดหนึ่ง ในงานวิดิโอมืออาชีพ การ Granding สี (การปรับแต่งสี) ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ วิดิโอทั่วไปก็เหมือน ไฟล์ JPEG ที่ไม่ค่อยจะปรับแต่งอะไรได้มาก ต้องทำให้เสร็จหลังกล้อง ปรับไป สีของไฟล์ก็จะไม่ค่อยสวย S-Log ก็คล้ายไฟล์ DNG ที่สามารถปรับโทนสีของภาพ/วิดิโอได้ ดีกว่า มีรายละเอียดมากกว่า ปรับแต่งสีได้กว้างกว่า ครับ โดยทาง Sony เครมว่าสามารถดึงสีของวิดิโอ / ไดนามิก ได้สูงถึง 14 Stops เยอะกว่า การถ่ายรูปด้วย Raw File อีกครับ
สุดท้ายที่โดดเด่นขึ้นมาเลยก็คือ การถ่ายวิดิโอแบบ Super 35 ปกตินั้นเราจะถ่ายวิดิโอแบบเต็มเซนเซอร์ เวลา ลงเม็ม ก็จะมีการบีบอีด คุณภาพ แต่ Super 35 เป็นการที่นำพื้นที่ของ เซนเซอร์ เท่าความละเอียดของ 4K นั้นก็คือ 3840×2160 หรือราว 8.3 MP ทำให้เวลาถ่ายวิดิโอนั้นไม่มีการบีบอัด คุณภาพจึงดีขึ้นมากครับ โดยเฉพาะใน ISO สูงๆ ถามว่าคุณภาพดีขึ้นขนาดไหน ไปดูตัวอย่างดีกว่าครับ
อื่นๆ
- Silent Shooting – เวลาถ่ายไม่มีเสียงกดชัดเตอร์
- Minimum Speed Shutter
- ถ่ายเป็น Raw 14 Bit ได้ภายละเอียดขึ้นแต่ยังไม่เป็น Uncompressed (ไม่บีบอัดเลย)
- เพิ่มปุ่ม Costom
- Clean HDMI
- ถ่ายไปชาร์จไปได้
- ช่องเสียบไมค์โครโฟน แต่ ไม่มีช่องเสียบหูฟังนะ
- มีที่ปิด Hot Soe แล้ว
- กันละอองนำ้ ละอองฝุ่น
Q&A หลายคำถาม หลายคำตอบ
Wrap UP ตัวไหนดี? เพิ่มตังดีไหม?
หากใครรู้สึกว่า ที่ผมเขียนมาเนี่ย แทบไม่ได้ใช้ เน้นแต่รูปภาพ ถ่ายทั่วไป A6000 ก็เกินพอต่อการถ่ายทั่วไป แต่หากคุณอยากได้กล้องที่ Advanced ขึ้นมาอีก แต่ยังคงต้องการขนาดเล็กอยู่ Sony A6300 ก็ยังเป็นทางออกที่ดีกว่ามาก เหมาะสมกับการที่เพิ่มเงิน
“Sony A6300 นี่มันยังไม่ดีพอที่จะพูดว่าดีเกินราคา แต่มันดีในแบบที่มันควรจะเป็นมากกว่า”
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ด้านล่าง หรือ เฟสบุ๊ค และที่ ทวีตเตอร์ ครับ