หลังจากที่ทางโซนี่ได้ไม่เปิดตัวกล้องตระกูล Sony A7S มาอย่างยาวนานตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2015 วันนี้ 28 กรกฏาคม 2020 ทางโซนี่ได้เปิดตัวกล้อง Sony A7SIII หรือ Sony Alpha 7 S Mark 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วก็ต้องบอกว่ามีจุดเด่นที่เยอะ และแก้ไขจุดบกพร่องจากรุ่นเก่าๆมาพอสมควรเลย จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันครับ
ปรับปรุงเซนเซอร์ 12 ล้านพิกเซล อ่านเขียนข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม!
Sony A7SIII มาพร้อมกับเซนเซอร์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่หลายคนก็จะบอกว่าก็เหมือนเดิมกับ 5 ปีที่แล้ว แต่รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ปรับปรุงขึ้นมาให้สามารถถ่ายเขียนข้อมูลได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก รับแสงได้ดีกว่าเดิม และสัญญาณรบกวนน้อยลง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผล BIONZ-XR ถึง 2 ตัว ที่มีความเร็วสูงสุดเมื่อเทียบกับ A7 Series ในปัจจุบัน ด้าน ISO ก็สามารถดันขึ้นไปสูงสุด 409600 และลงได้สูงสุด 40
อัดวิดีโอ 4K ได้ที่ 120 FPS พร้อม Codec ใหม่ XAVC-S-I และ XAVC-HS
อีกสิ่งหนึ่งที่สนใจมากๆ เกี่ยวกับกล้องนั้นก็คือการที่เราสามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 4K ซึ่งเอากันตรงๆ 4K นับเป็นมาตรฐานกล้องในปัจจุบันแล้ว ตัวละ 20,000 บาท ก็มีให้เห็นกัน แต่ที่แตกต่างก็คือ Sony A7SIII นั้นสามารถถ่ายได้ถึง 120 FPS กันเลยทีเดียว พร้อมอัตราบีบอัดสีได้สูงสุด 4:2:2 10 Bits กันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ Sony ยังใส่ Codec ใหม่เข้ามาอันแรกก็คือ XAVC-S-I เป็นการอัดแบบ Intra frame (All-I) ที่มีบิตเรตสูงสุด 500 MBit/s เลยทีเดียว ส่วน XAVC-HS จะเป็นการบีบอัดแบบ H.265 บิตเรตสูงสุด 200 MBit/s ในส่วนของ External Recorder เมื่อใช้กับกับพอร์ตที่ให้มา HDMI 2.1 นั้นก็สามารถ Output ได้ที่ 4K ที่ 60 FPS แบบ 16 Bit Raw Files (ProRess Raw) ไปยังยี่ห้อที่รองรับอย่าง Atomos แต่ทั้งนี้ตัว Atomos ก็ยังรองรับแค่การรับแค่ 12 Bit
และที่สำคัญตัวกล้อง Sony A7SIII นั้นไม่จำกัดเวลาในการถ่ายวิดีโอในทุกความละเอียด แล้วด้วยระบบระบายความร้อนก็น่าจะไม่มีปัญหาระบบระบายความร้อน
วิดีโอ Slow Motion 240 FPS แถมยัง Auto Focus ได้!
ใครที่คิดว่า 120 FPS บน 4K ไม่พอนั้น Sony A7SIII ก็มีทางเลือกในการบันทึกความละเอียด Full HD ได้ที่ 240 FPS ก็เลยทีเดียว โดยการทำงานนั้นสามารถใช้งาน Auto Focus ได้ต่อเนื่องแบบเต็มประสิทธิภาพ ต่างจากกล้องรุ่นอื่นๆที่ผ่านมา แล้วยังสามารถบันทึกเสียงเอาไว้ใช้งานได้อีกด้วย
ระบบกันสั่น 5 แกน พร้อมแบบดิจิตอล
Sony A7SIII นั้นมาพร้อมกับกันสั่นภายในตัวบอดี้ 5 Axis ตัวโซนี่เครมไว้ว่าสามารถช่วยได้ 5.5 Stops กันเลยทีเดียวให้โหมดวิดีโอ แถมยังมีกันสั่นในรูปแบบของดิจิตอลเข้ามาอีกด้วย ซึ่งจะใช้ Gyro Sensor ในการช่วยในงานคำนวณระบบกันสั่นให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
ดีไซน์ที่ออกแบบมาสำหรับงานวิดีโอโดยเฉพาะ
แม้ว่าตัวกล้อง Sony A7SIII นั้นจะมีลักษณะที่คล้ายกับ A7RIV แต่ก็มีการเก็บรายละเอียดดีเทลที่แตกต่างพอสมควร อาทิการเปลี่ยนปุ่ม C1 ไปไว้ด้านหลังแล้วใส่ปุ่มอัดวิดีโอเข้ามาแทน หรือการมีไฟสีแดง ตรงด้านหน้า ทำให้เรารู้ว่าตัวกล้องกำลังกำลังบันทึกวิดีโออยู่ เวลาใช้งานคนเดียว
EVF ความละเอียด 9.44 ล้านพิกเซล พร้อมจอพับได้รอบทิศทาง!
ตัวกล้อง Sony A7SIII นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ OLED Viewfinder ความละเอียดสูงสุดในโลกที่ความละเอียด 9.44 ล้านพิกเซล กันเดียวทีเดียว พร้อม Magnification 0.9x ก็ต้องบอกว่าใหญ่มากๆ แต่สิ่งที่ว้าวมากกว่านั้นก็คือ หน้าจอสัมผัสความคมชัดอยู่ที่ 1.44 ล้านจุด ที่เราสามารถพับหมุนได้รองทิศทางเหมือน Sony ZV-1 นั้นเอง
เมนูแบบใหม่ รองรับระบบสัมผัสเต็มแบบรูปแบบ
เมนูรูปแบบใหม่นั้นจะแตกต่างจากเมนูรูปแบบเก่าโดยสิ้นเชิง จะเป็นในลักษณะเอาหัวเมนูมาไว้ด้านขวา แทนด้านบน แล้วก็เป็นสีๆ เข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แถมตัวเมนูก็รองรับการสัมผัสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากสำหรับผู้ใช้งาน
โฟกัสรวดเร็วที่สุดตั้งแต่ทำ Sony A7S มาแถมถ่ายภาพได้ต่อเนื่อง 10 FPS
ระบบโฟกัสของ Sony A7SIII นั้นเป็นระบบโฟกัสที่ Base On ระบบ AI หรือที่ Sony เรียกว่า Real-Time AF นั้นสิ่งที่แตกต่างกับ Lock-On AF ที่เคยใช้กันในรุ่นเก่าๆก็คือเรื่องประสิทธิภาพ แต่หากเจาะลึกข้อมูลกันแล้ว การทำงานของ Real-Time AF ค่อนข้างต่างกัน เพราะสำหรับ Lock-On AF นั้น จะวิเคราะห์ โดยใช้สี ระยะห่าง และ ใบหน้า แต่สำหรับ Real-Time AF นั้นนอกจากจะคำนวณสี ระยะห่าง และ ใบหน้า ยังคำนวณจากตา และ ลวดลายบนภาพ อีกด้วย โดยทั้งหมดผ่านระบบ AI ที่มีหน่วยประมวลที่ทรงพลัง ทำให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องการถ่ายภาพต่อเนื่องนั้นตัวกล้องสามารถถ่ายภาพได้ต่อเนื่องสูงสุด 10 ภาพต่อวินาที โดยใช้งานได้ทั้งระบบ ทั้งระบบโฟกัส และ ระบบวัดแสง (AF และ AE) นอกจากนี้ยังรองรับระบบ Animals Eye-AF เหมือนรุ่นอื่นๆอีกด้วย
Dual Card Slot ที่มีทั้ง SD Card UHS-II และ CF Express Type-A
Sony A7SIII นั้นจะมาพร้อมกับ ช่องใส่การ์ด 2 ช่อง โดยทั้ง 2 ช่องนั้นจะรองรับการ์ดที่เป็น SD Card UHS-II และ ช่องเสียบ CF-Express Type-A แปลว่าเราสามารถใส่การ์ดทั้ง 2 รูปแบบไปในการ์ดสล็อตใดก็ได้
CFexpress Type A นั้นจะมีขนาดเล็กกว่า SD Card ขนาดปกติเล็กน้อย แต่หนากว่า ให้ความเร็วที่แรงกว่า SD Card UHS-II ทั่วไปที่ทำได้อยู่ที่ 300 MB/s แต่ตัว CFexpress Type A นั้นจะมี PCLe interface gen 3, 1 ช่องข้อมูล รองรับความเร็วได้สูงสุด 1000 MB/s
สเปค Sony A7SIII
- เซนเซอร์ Exmor R BSI CMOS ฟูลเฟรมความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล
- ISO 40-409600
- ระบบประมวลผล Bionz XR
- ถ่ายภาพนิ่งรองรับไฟล์รูปภาพ HEIF มีให้เลือกทั้ง 4:2:0, 4:2:2 หรือเลือกเป็น JPEG ก็ได้เช่นกัน
- วิดีโอสามารถบันทึกได้ถึง 4K 120 FPS 4:2:2 10 Bit ที่ Bitrate 600 Mbps
- สามารถบันทึก Slow Motion ได้ที่ 240 FPS ที่ Full HD
- สามารถบันทึกได้ที่ฟอร์แมต XAVC S-L, XAVC-HS และ XAVC-S
- Profile สี HLG, S-Log2,3
- ไม่จำกัดเวลาถ่ายวิดีโอ
- กันสั่นภายในบอดี้ 5 แกน เครมได้ 5.5 Stops
- กันสั่นดิจิตอล (Active) คร็อปลงไป 10%
- หน้าจอ EVF ชนิด OLED ความละเอียด 9.44 ล้านจุด
- หน้าจอฟลิปข้าง Vari Angle ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.44 ล้านจุด พับได้รอบทิศทาง
- ระบบโฟกัส Phase Detection จำนวน 759 จุด และ Contrast Detection 425 จุด ครอบคุม 92% ของหน้าจอ
- รองรับ Animal Eye-AF และ โฟกัสดวงตาขณะถ่ายวิดีโอ
- รองรับการใส่การ์ดแบบ Dual Slot และสามารถใส่ได้ทั้ง SD Card UHS-II และ CF Express Type-A
- พอร์ต Multi (Micro USB), USB-C, Full Size HDMI, ช่องเสียบหูฟัง และ ไมค์โครโฟน
- รองรับ Wi-Fi 2.4 GHz และ 5 GHz สำหรับการโอนถ่ายข้อมูล
- น้ำหนัก 614 กรัม
Sony A7SIII พร้อมขายปลายเดือนกันยายน ในราคาประเทศไทยอยู่ที่ 121,990 บาท