ความต้องการของการใช้งานฟังก์ชั่นวิดีโอในปัจจุบัน มีการเติบโตสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้คนต้องมาทำ Video Content หรือ Video Training หรือการถ่ายวิดีโอแบบ Vlog ซึ่งในงานวิดีโอ กล้องของเราต้องมีฟังก์ชั่นหลาย ๆ อย่างเผื่อให้งานวิดีโอได้คุณภาพตามที่เราต้องการและใช้งานได้อย่างสะดวกเหมาะสมกับงานที่ต้องการ
Fujifilm เป็นหนึ่งในแบรนด์กล้องที่พยายามพัฒนาวิดีโอของตัวเอง จากที่มีจุดเด่นในเรื่องของภาพนิ่งแล้ว ซึ่งในปัจจุบันก็ต้องบอกได้เลยว่า วิดีโอของกล้อง Fujifilm ได้มีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน เช่น ความละเอียดของวิดีโอ ระบบโฟกัส ระบบกันสั่น
สำหรับรุ่นที่จะมาพูดถึงในบทความนี้คือ Fujifilm X-T200 ซึ่งเป็นกล้องที่มีความครบเครื่องทั้งงานภาพนิ่งและวิดีโอ ใครที่กำลังมองหากล้องที่ลงตัว ในราคาไม่แพง เริ่มต้นพร้อมเลนส์ Kits อยู่ที่ 27,990 บาท ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวิดีโอของกล้องรุ่นนี้
สเปค Fujifilm X-T200
- เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ความละเอียด 24.24 ล้านพิกเซล
- สามารถถ่ายวิดีโอ 4K โดยใช้เทคนิค ย่อความละเอียด 6K มาเป็น 4K
- สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ 4K 30 FPS นาน 15 นาที
- HDR วิดีโอ (รองรับเฉพาะ Full HD)
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 FPS
- หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 ความละเอียด 2.76 ล้านพิกเซล
- Film Simulation 11 รูปแบบ
- มาพร้อมโหมด Light Trail
- รองรับ Wi-Fi และ Bluetooth
- มีพอร์ท Type-C (ความเร็ว USB 2.0), Micro HDMI, และช่องเสียบไมค์โครโฟน 3.5 mm.
- รองรับการใช้งาน SD Card มาตรฐาน UHS-I
- แบตเตอรี่รุ่น NP-W126S
- น้ำหนัก 370 กรัม รวมแบตเตอรรี่ และ SD Card
1. เลนส์ Kits 15-45 mm. แบบซูมไฟฟ้า
เลนส์ Kits ของ Fujifilm ได้มีการพัฒนาขึ้นมาเป็นรุ่นที่สอง ซึ่งมีชื่อและรหัสเต็ม ๆ ว่า Fujinon XC 15-45 mm. f/3.5-5.6 OIS PZ ซึ่งมีขนาดเลนส์ที่เล็กลง ระยะกว้างขึ้นจากรุ่นก่อน และที่สำคัญเป็นเลนส์ที่มีมอเตอร์ในการซูมแบบไฟฟ้า ซึ่งมีประโยชน์กับการถ่ายวิดีโอเป็นอย่างมาก ทำให้การซูมในระหว่างการถ่ายวิดีโอนั้น มีความนุ่มนวลมาก โดยมาพร้อมกับวงแหวนซูมบนตัวเลนส์ สามารถเลือกความเร็วของการซูมได้ผ่านการหมุนวงแหวน
2. หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ พับมาเซลฟี่ได้
Fujifilm X-T200 มาพร้อมกับจอขนาด 3.5 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 ความละเอียด 2.76 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่กว่ากล้องหลาย ๆ รุ่นและเป็นจอที่มีอัตราส่วนเดียวกับอัตราส่วนวิดีโอที่นิยมกัน อย่าง 16:9 ทำให้ได้เห็นภาพที่เต็มตา ไม่มีขอบ และยังรองรับการสัมผัสแบบเต็มรูปแบบ เช่น เปลื่ยนจุดโฟกัส ปรับการตั้งค่า ซูมหรือเปลื่ยนรูป ก็สามารถทำได้อย่างเสถียร และแน่นอนว่า กล้องในตระกูล X-TX00 สามารถพับจอมาเซลฟี่ได้ ซึ่งมีประโยชน์ทั้งงานภาพนิ่งและโดยเฉพาะกับวิดีโอในลักษณะ VLOG
3. กันสั่นดิจิตอลช่วยวิดีโอให้นิ่งยิ่งขึ้น
กันสั่นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นในการถ่ายวิดีโอ ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายวิดีโอนิ่งขึ้น ผู้ชมไม่เวียนหัวง่าย ซึ่งกันสั่นของ Fujifilm X-T200 จะเป็นแบบดิจิตอลซึ่งจะทำการครอปวิดีโอลงไป แต่จะช่วยลดอาการสั่นไหวของวิดีโอให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
4. มาพร้อมช่องเสียบไมค์ 3.5 mm. และเสียบหูฟังได้ผ่านตัวแปลง
Fujifilm X-T200 มาพร้อมกับช่องเสียบไมค์ขนาดมาตรฐาน 3.5 mm. ไม่ต้องแปลงใด ๆ นอกจากนั้น ยังมาพร้อมกับ Low Cut Filter ช่วยตัดเสียงต่ำออก Wind Filter ช่วยตัดเสียงลมที่เข้ามารบกวน และ Mic Limiter ที่ช่วยให้เสียงไม่แตกหรือพีคจนเกินไป หากมีสัญญาณเข้ากล้องเยอะจนเกินไป และถึงแม้ X-T200 จะไม่มีช่องสำหรับเสียบหูฟัง แต่รุ่นนี้ยังรอบรับการ Moniter เสียง ผ่านการใช้ช่อง Type-C บนตัวกล้อง และตัวแปลงก็แถมมาให้ในชุดซื้อเลยครับ
5. รองรับ Clean HDMI
คุณสมบัติ Clean HDMI เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่เริ่มมีความต้องการเพิ่มมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน เพราะการมาของ Live Straming ที่ต้องการนำกล้องดิจิตอลมาทำถ่ายทอดสด ซึ่ง Clean HDMI ก็คือ การที่ดึงวิดีโอออกจากล้องผ่านช่อง HDMI โดยที่ไม่มีค่าต่าง ๆ ของกล้องติดออกมาด้วย ซึ่ง Fujifilm X-T200 สามารถเลือกเปิดหรือปิดก็ได้
6. รองรับวิดีโอระดับ 4K
Fujifilm X-T200 รองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ 4K 30 FPS ซึ่งเป็นคุณภาพวิดีโอที่ให้ความคมชัดมากกว่า Full HD โดยตัว Fujifilm X-T200 นั้นยังรองรับในถ่ายในรูปแบบของ Slow Motion ได้ที่ Full HD 60 FPS เรียกได้ว่าสมูธลื่นๆ เหมาะกับสายวิดีโอ
7. สามารถใช้งาน Film Simluation ได้
การจำลองฟิล์มเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Fujifilm ซึ่งนอกจากจะใช้งานกับภาพนิ่งได้แล้ว ยังสามารถใช้งานกับวิดีโอได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวเด่น ๆ อย่าง Classic Chrome หรือ Pro Neg. ก็ไม่ได้ถูกตัดออกแต่อย่างใด สามารถใช้งานกับวิดีโอได้ พร้อมการปรับแต่งที่เข้าถึงได้ง่าย สามารถดูวิดีโอตัวอย่างระหว่างแต่งได้ทันที
8. สามารถใช้งาน Eye AF ได้
ในปัจจุบันคุณสมบัติ Eye-AF ในภาพนิ่งนั้นเป็นคุณสมบัติพื้นฐานสำหรับกล้องถ่ายภาพในปัจจุบัน แต่สิ่งที่ Fujifilm พัฒนาเพิ่มขึ้นมา ก็คือการใช้งาน Eye-AF ในงานวิดีโอ ซึ่งยังมีกล้องไม่กี่รุ่นที่รองรับคุณสมบัตินี้ แถมการใช้งานจริง ก็มีความแม่นยำสูง โดยเฉพาะกับการถ่ายวิดีโอตัวเอง ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดโฟกัส
9. มีเลนส์ 35 mm. ระยะยอดนิยมมาในราคาถูก สำหรับทำหน้าชัดหลังเบลอ
ในตัว Fujifilm X-T200 จะมีชุดให้เลือกทั้งหมด 4 ชุด 3 สี (Champain Gold, Silver และ Dark Silver) นั้นก็คือ
- Fujifilm X-T200 บอดี้ ราคา 24,990 บาท
- Fujifilm X-T200 พร้อมเลนส์คิต 15-45 mm ราคา 27,990 บาท
- Fujifilm X-T200 พร้อมเลนส์คิต 15-45 mm และ เลนส์หน้าชัดหลังเบลอ 35 mm f/2 ราคา 31,990 บาท
- Fujifilm X-T200 พร้อมเลนส์ 16 mm f/2.8 ราคา 31,990 บาท
*** สีพิเศษ Dark Silver เพิ่มอีก 1,000 บาท เฉพาะร้าน Big Camera
จะเห็นได้ว่าชุดที่คุ้มค่าที่สุด คงหนีไม่พ้นชุดพร้อมเลนส์คิต 15-45 mm และ เลนส์หน้าชัดหลังเบลอ 35 mm f/2 ราคา 31,990 บาท พบว่าการเพิ่มเงินเพียง 4,000 บาท ก็ได้เลนส์หน้าชัดหลังเบลอสวยๆ ซึ่งช่วยให้งานวิดีโอสวยยิ่งขึ้นด้วยฉากหลังที่ละลายมีมิติ
เรียบเรียงโดยทีมงาน ThePeakFoto