ในตอนนี้ วง BNK48 นั้นได้รับความนิยมมาก ทำให้มีการเลือกซื้ออุปกรณ์กล้อง เพื่อให้สามารถถ่าย วง BNK48 ได้ ส่วนสเปคที่ผู้ใช้งานต้องการนั้นก็ถือว่าใช้งานนอกเหนือจากการถ่าย วง BNK48 ได้อย่างดีทีเดียวครับ คือ

• มีระบบโฟกัสที่รวดเร็ว เเม่นยำ ฉลาด
• ถ่ายต่อเนื่องได้รวดเร็วเเละมีจำนวน Buffer สูง
• จุดโฟกัสเยอะ
• เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพิ่มความสะดวกต่อการใช้งานเช่น Wifi,NFC
• โฟกัสบน Liveview ได้รวดเร็วเเละเเม่นยำ
• จอพับได้ ในกรณีต้องชูกล้องขึ้นเหนือศีรษะ

ซึ่งก็ถือว่าเป็นสเปคที่เรียกได้ว่าจัดเต็มมากๆเลยครับ

วันนี้ The Peak Foto จึงขอนำเสนออุปกรณ์ถ่ายภาพที่จะทำให้การถ่ายภาพ วง BNK48 ของคุณ สะดวกสบายยิ่งขึ้น

กล้อง

โดยตามปกติทั่วไปเเล้ว การถ่ายภาพ วง BNK48 นั้น จะต้องการกล้องที่มีระบบโฟกัสรวดเร็ว จุดโฟกัสที่เเม่นยำเเละฉลาด มีระบบโฟกัสบน Live view ในกรณีที่ต้องมีการชูกล้องขึ้นถ่ายเหนือศรีษะ รวมทั้งการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ต้องใช้ความเร็วสูงเเละที่ขาดไม่ได้คือ Buffer ที่ทำให้ถ่ายต่อเนื่องโดยมีขีดจำกัดน้อย มาดูกันครับว่ากล้องตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง

EOS 1DX

กล้อง: EOS 1DX

โหมด: M,AV

ISO: Manual

ระบบโฟกัส: ติดตาม AI SERVO เลือกจุดโฟกัสอัตโนมัติ 61 จุด โดยใช้จุดกลางเป็นจุดเริ่มต้นในการติดตามวัตถุ

ระบบการถ่าย: Continuous 12 Fps

ภาพตัวอย่าง

การใช้งาน

จริงๆเเล้ว EOS 1DX นั้นเป็นกล้องอดีตเรือธงที่ถูกเปิดตัวในปี 2012 เเต่ต้องขอยอมรับเลยว่า ระบบโฟกัสเเละความเร็วต่อเนื่องในการถ่ายนั้น ใช้งานได้ดีกับการถ่าย วง BNK48 จริงๆ เพราะการติดตามวัตถุนั้น รวดเร็วทันใจ เเม่นยำ อีกทั้งยังรัวได้ถึง 12fps กันเลยทีเดียว เเต่ก็ยังมีข้อเสียในกรณีต้องยกกล้องขึ้นเหนือศีรษะ จำเป็นต้องใช้ Live view ในการโฟกัส ซึ่งกล้อง Generation เก่าๆอย่าง 6D,7D,5Dmark iii รวมไปถึง เจ้า EOS 1DX เองนั้นค่อนข้างที่จะช้าเเละไม่ทันใจ เเต่ด้วยราคามือสองในตลาดตอนนี้ ที่มีราคาราวๆ 60-90k เเล้วเเต่สภาพ ก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวครับ

ระบบการ Tracking AI SERVO ของเจ้า EOS 1DX ต้องบอกเลยว่ารวดเร็วเเละเเม่นยำ เลือกจุดโฟกัสได้ฉลาด ทำให้สะดวกต่อการถ่าย พึ่งพาได้เเน่นอนครับ

นอกจากนี้เเล้ว เจ้า EOS 7D mark ii ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงเพราะมาพร้อมระบบโฟกัสที่รวดเร็วเหมือน EOS 1DX เเละ Live view ที่โฟกัสไวจากระบบ Dual pixel ที่สะดวกรวดเร็วจาก Canon ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

สเปคของ EOS 1DX

• เซ็นเซอร์ Full-frame CMOS ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล
• Dual DIGIC 5+ เเละ DIGIC 4
• ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 12 ภาพต่อวินาที
• มีจุดโฟกัสทั้งหมด 61 จุด crosstype 41 จุด
• ISO100 – 51,200 (ขยายได้ 50 – 204,800)
• ถ่ายวีดีโอสูงสุดที่ Full HD 1920×1080 30p

NIKON D850,D810

กล้อง: Nikon D850

โหมด: M,A

ISO: Manual

ระบบโฟกัส: ติดตาม AF-C เลือกจุดโฟกัสเเบบ 3D

ระบบการถ่าย: Continuous 10 Fps,7 Fps

ภาพตัวอย่าง

การใช้งาน

การถ่าย วง BNK48 นั้น ในบางกรณีเราจำเป็นจะต้องครอปเพื่อให้ได้ภาพเเละมุมที่ต้องการ เเต่ก็ติดปัญหาเรื่องพิกเซลของกล้องตัวเองนั้นมีขนาดไม่เพียงพอ เจ้า Nikon D850 เเละ Nikon D810 นั้นก็ถือว่าตอบโจทย์ได้มากเลยทีเดียว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 45 ล้านพิกเซล เเละ 36 ล้านพิกเซลตามลำดับ

โดยที่การใช้งานเจ้า NIKON D850 นั้นก็ถือว่าประทับใจในเรื่องของคุณภาพไฟล์ ที่มีความละเอียดสูงถึง 46 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถครอปโดยที่ยังคงรายละเอียดของภาพได้ดี เเละ Dynamic Range ที่สูงถึง 14.8 Stop ทำให้การปรับสีเเละเเสงนั้น เป็นไปด้วยความง่ายเพราะไฟล์มีความยืดหยุ่นสูง

การถ่ายต่อเนื่องนั้น ก็ไม่เเพ้ EOS 1DX เช่นเดียวกัน เพราะเจ้า Nikon D850 นั้นสามารถทำความเร็วการถ่ายต่อเนื่องสูงสุดถึง 10 Fps(เมื่อใส่เเบตเตอร์รี่กริป) จากปกติ 7 Fps หลังจากนั้นก็สามารถนำภาพเหล่านี้มาทำการคัดเลือกเพื่อให้ได้จังหวะที่ดีที่สุดนั่นเองครับ

โดยที่ราคาของเจ้า Nikon D850 นั้นค่อนข้างสูง เเต่ถือว่าคุ้มค่าต่อการใช้งาน เพื่อเเลกกับคุณภาพที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง เเต่ถ้าคุณคิดว่า Nikon D850 นั้นมีราคาที่สูงเกินไป ก็ขอเเนะนำ Nikon D810 ไว้เป็นอีกทางเลือกที่รายละเอียดของภาพเเละ Dynamic Range นั้นน้อยกว่าเจ้า Nikon D850 เเต่ถือว่าครอบคลุมต่อการใช้งานไม่เเพ้กันครับ

สเปคของ Nikon D850

• ใช้เซ็นเซอร์ 45.7 MP FX CMOS ที่เป็น back-side illuminated เพื่อเพิ่มคุณภาพของภาพในภาวะเเสงน้อย
• ระบบประมวลผล EXPEED 5
• ISO  64 – 25,600 (ขยายได้ 32 – 102,400)
• จุดโฟกัส 153 จุด
• ใช้ระบบออโต้โฟกัสเช่นเดียวกับ D5
• ไม่มี Low pass filter
• ใช้เเบตเตอรี่ EN-EL15a ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งได้สูงสุด 1800 ภาพ
• จอสัมผัสพับได้ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.359 ล้านพิกเซล
• วีดีโอ 4K 30fps
• ช่องใส่ SD card 1 ช่อง เเละ XQD 1 ช่อง
• ถ่ายต่อเนื่อง 7 fps (สูงสุด 9 fps เมื่อใส่กริป)
• buffer raw 14bit full size ได้สูงสุด 51 ภาพ
• ขนาด 146 x 124 x 79 mm.
• น้ำหนัก 1005 กรัม (เมื่อรวม SD , XQD  และ Battery)
• Wi-Fi/Bluetooth

SONY A9

กล้อง: SONY A9

โหมด: M,A

ISO: Manual

ระบบโฟกัส: ติดตาม AF-C โซนโฟกัสเเบบ wide (เลือกจุดโฟกัสอัตโนมัติเเบบ 693 จุด)

ระบบการถ่าย: Continuous 20 Fps

ในขณะนี้ ถ้าพูดถึงกล้อง MRL ที่โฟกัสไวที่สุดก็คงต้องยกให้เจ้าเรือธงค่ายของหมี SONY A9 เลยครับ ด้วยจุดเด่นของมันที่มีจุดโฟกัสถึง 693 จุด! เเละความเร็วถ่ายภาพต่อเนื่องถึง 20 Fps เรียกได้ว่ารัวกันเลยทีเดียว ด้วย Buffer ที่มีจำนวนถึง113 รูปด้วยภาพ Raw ชนิด Uncompressed

นอกจากนั้นเเล้วในตัวกล้อง SONY A9 ยังมีระบบ Lock-on Tracking ซึ่งเป็นระบบติดตามวัตถุที่เราโฟกัสในตอนเเรก เเละไม่มีการเปลี่ยนวัตถุในการโฟกัส ซึ่งเเตกต่างจากการใช้งานระบบ AF-C เเบบ Focus zone Wide โดยที่เเบบ Focus zone Wide นั้นจะเป็นการค้นหาวัตถุเพื่อโฟกัสอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

สเปคของ Sony A9

• เซ็นเซอร์ stacked Exmor RS™ CMOS ความละเอียด 24.2 MP
• ISO 100 – 51,200 (ขยายได้ถึง 50 – 204,800)
• โฟกัส 693 จุด แบบ Phase Detection
• Speed Shutter 30-1/8000 วินาที สำหรับ Mechanic Shutter และ 30-1/32000 วินาที สำหรับ Electronic Shutter
• รัวได้ต่อเนื่อง 20 ภาพต่อวินาที โดยวัดแสง 60 ภาพต่อวิ No Backout
• Buffer 362 ภาพ JPEG และ 241 ไฟล์ Raw
• วิดีโอ 4K 30 FPS
• หน้าจอ EVF ความละเอียด 3.686 ล้านพิกเซล ขนาด x0.78 พร้อมเคลือบผิว Zeiss T* เฟรมเรต 120 FPS
• หน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว
• Joystick
• กันสั่น 5 แกน
• การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth,NFC, Micro HDMI, ช่องหูฟัง, ช่องเสียบไมค์ และ Ethernet port

เลนส์

การถ่าย BNK48 นั้น จะมีการนิยมเลนส์จำพวก Telephoto หรือเลนส์ที่มีระยะสูงๆ ขยายภาพได้ไกล เพื่อให้สามารถดึงวัตถุเข้ามาใกล้ได้ เเต่ในบางกรณีก็จะสามารถใช้เลนส์ Normal ถ่ายได้เช่นกัน ระยะที่ควรมีติดกระเป๋าไว้เลยสำหรับการถ่าย BNK48 นั้นมีดังนี้ครับ

Normal 50mm, 85mm

ระยะ 50 เเละ 85 นั้นถือว่าเป็นระยะมาตราฐานในการถ่ายภาพ ซึ่งเเต่ละตัวก็จะสามารถเลือกใช้ได้ในเเต่ละสถาณการณ์ เเละด้วยขนาดที่ปานกลาง ทำให้คล่องตัวต่อการใช้งานได้ครับ

Telephoto 70-200mm F2.8, 70-200mm F4

ระยะ 70-200mm นั้นถือว่าเป็นเลนส์ระยะเทเลซูมยอดนิยมที่ช่างภาพส่วนใหญ่เลือกใช้ โดยที่จุดเด่นของ 70-200mm f/2.8 นั้นคือสามารถถ่ายในที่เเสงน้อยได้ดี มีความคมชัด โบเก้ใหญ่สวยงาม เเต่เเลกมาด้วยน้ำหนักเเละขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ เเต่ในส่วนของ 70-200 f/4 นั้นก็มีขนาดที่เล็กรองลงมา ทำให้สามารถพกพาง่าย สะดวกต่อการใช้งาน

Super Telephoto 300mm F2.8, 300mm F4

คราวนี้เรามาดูในเรื่องของเลนส์จำพวก Super Telephoto กันบ้าง ในกรณีที่ต้องการจะ Close-up น้องๆ วง BNK48 ก็จะต้องการเลนส์ที่มีระยะเยอะๆ เพื่อให้ดึงวัตถุได้ใกล้เป็นพิเศษ โดยนอกจากที่เลนส์ Super Telephoto อย่าง 300mm f/2.8 จะสามารถดึงวัตถเข้ามาใกล้เเล้ว ยังมีรูรับเเสงที่ทำให้เกิดโบเก้สวยงาม ใหญ่ เป็นเอกลักษณ์ เเละ Depth ที่ลึกอีกนั่นเอง โดยที่เลนส์ชนิดนี้จะมีราคาค่อนข้างที่สูง เเละน้ำหนักมากกว่าเลนส์ชนิดอื่น ทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้าย เเต่คุณภาพถือว่ากินขาด

ซึ่งเลนส์ระยะ 300 mm f/4 นั้นอาจจะเป็นอีกทางเลือกนึงเพราะมีน้ำหนักเเละราคาที่ต่ำกว่า อยู่ที่คุณภาพที่ผู้ใช้ต้องการครับ

Teleconverter x2

นอกจากตัวเลนส์เเล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์อีกชิ้นที่จะช่วยให้ดึงวัตถุเข้ามาใกล้ๆได้เช่นกัน เจ้าสิ่งนั้นคือ Teleconverter  x2 ที่ช่วยขยายระยะของเลนส์เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า! เเต่เเลกมาด้วยค่ารูรับเเสงที่จะเพิ่มขึ้นไป 2 เท่าเช่นกันครับ

ทดสอบ Teleconverter x2 บนเลนส์ 70-200mm f/2.8 ซึ่งเท่ากับระยะ 140-400mm f/5.6

 

การ์ดหน่วยความจำ

การถ่าย วง BNK48 นั้นเมื่อเราต้องถ่ายต่อเนื่องเป็นจำนวนหลายๆภาพ ก็จำเป็นจะต้องใช้การ์ดที่มีพื้นที่ความจุเยอะๆ เเละความเร็วในการเขียนข้อมูลสูง

โดยพื้นที่ความจุที่เเอดมินเเนะนำนั้นก็จะต้องเป็นการ์ดที่มีความจุ 64 GB หรือ 32 GB ส่วนความเร็วนั้นเเนะนำให้ใช้ไม่ต่ำกว่า 95 MB/s ครับ

การ์ดที่เเนะนำ

• SONY SD UHS-II 64 GB 300 MB/s
• SONY XQD 64 GB 400 MB/s
• SanDisk Extreme PRO CF 64 GB 160 MB/s
• SanDisk Extreme PRO CF 64 GB 160 MB/s
• SanDisk Extreme PRO SD 64 GB 160 MB/s
• Lexar 64GB Professional 1000x UHS-II SDXC
• SanDisk Extreme PRO SD 128 GB 95 MB/s
• SanDisk Extreme PRO SD 64 GB 95 MB/s

ซึ่งนอกเหนือจากกล้องที่ทางเเอดมินได้มีการใช้งานนั้น ก็ขอเเนะนำกล้องที่น่าสนใจเพิ่มเติมครับ

Sony A7iii

 กล้อง MRL Fullframe ค่าย Sony ที่ได้รับความนิยมมากมาย มาพร้อมระบบ Eye focus, เทคโนโลยีที่ทันสมัย เเละราคาที่สามารถจับต้องได้

สเปคของ Sony A7iii

• เซ็นเซอร์ Back-Illuminated 24.2 MP ฟูลเฟรม
• รองรับวิดีโอ 4K HDR
• ISO 100 ถึง 204,800
• รัวชัตเตอร์ได้สูงสุด 10 fps
• 14 Bit Raw
• กันสั่น 5 แกน
• บอดี้เดียวกับ Sony A7RIII
• จอยสติ๊ก
• ชุดระบบ Auto Focus แบบเดียวกับ A9
• จุดโฟกัส 693 จุดแบบ Phase Detection
• 425 จุด แบบ Contrast
• รองรับวิดีโอ 1080P ที่ 120 Fps
• รองรับวิดีโอ 4K ที่ 24P และ 30P
• USB 3.1
• ช่องใส่การ์ดสองช่อง

Fujifilm XT-3

กล้องเรือธง MRL เซนเซอร์ขนาด APS-C จาก Fujifilm ที่สามารถถ่ายต่อเนื่องได้ด้วยความเร็ว 20 Fps เเละ 30 Fps เมื่อใช้โหมดครอป เเละคุณภาพวีดิโอที่ 4K 60P 4:2:0 10 Bit

สเปคของ Fujifilm XT-3

• เซ็นเซอร์ลักษณะ Back-Iilluminated ขนาด APS-C ความละเอียด 26.1 ล้านพิกเซล มาในชื่อ X-Trans CMOS 4
• ระบบประมวลผลความเร็วสูง “X-Processor 4”
• ISO 160-12,800 (ขยายได้ถึง 80-51,200)
• เพิ่มจุดโฟกัสให้มากขึ้น จำนวน 425 จุด ครอบคุมทั่วทั้งเซ็นเซอร์
• สามารถโฟกัสได้ถึงที่ -3EV
• ถ่ายวิดีโอลงการ์ดได้ที่คุณภาพสูงสุด 4K 60P 4:2:0 10 Bit และรองรับ 4K 60P 4:2:2 10 Bit เมื่ออัดผ่าน External Recorder
• หน้าจอขนาด 3 นิ้ว พับได้ 3 ทิศทาง ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
• การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.2
• รองรับ SD Card UHS-II 2 สล็อต
• แบตเตอรี่ใช้งานประมาณ​ 390 ภาพต่อ 1 ก้อน
• น้ำหนัก 539 กรัม รวมแบตเตอรี่ และ SD Card

Panasonic Lumix G9 เเละ Olympus EM1 mark ii

กล้องเรือธง MRL เซนเซอร์ขนาด m4/3 จากทั้งสองค่าย โดยที่ทั้งสองตัวนี้มีสเปคที่ใกล้เคียงกัน เช่นถ่ายภาพต่อเนื่องได้ใกล้เคียงกับ SONY A9 ที่ 20 Fps เเละ 18 Fps No blackout ตามลำดับ เเละมีความพิเศษตรงที่ทั้งสองตัวนี้ยังสามารถใช้เลนส์ชนิดเดียวกันได้อีกด้วยครับ สามารถเลือกกล้องสองตัวนี้ได้ตามความถนัดในการใช้งานเลยครับ

สเปคของ Panasonic Lumix G9

• เซ็นเซอร์ Micro Four Thirds ความละเอียด 20.3 ล้านพิกเซล
• ช่องมองภาพแบบ Organic 3.68 ล้านจุด ขนาด 0.83x
• ถ่ายภาพต่อเนื่อง 20 ภาพต่อวินาทีแบบ No Black Out และ
• ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 12 ภาพต่อเนื่องต่อวินาที (เมื่อใช้ Mechanical shutter) และ 20 ภาพต่อวินาที เมือใช้ Electronic Shutter เวลาใช้ AF-C แบบ No Black Out
• ถ่ายภาพได้ต่อเนื่อง  60 ภาพต่อวินาที เมื่อใช้ AF-S
• หน้าจอสัมผัส 1.62 ล้านจุด
• โฟกัส 229 จุด
• กันสั่น 5 แกนในตัวกล้อง เครมว่าสามารถลด Speed Shutter ได้ 6.5 Stops
• บอดี้ Magnesium สามาถกันละอองน้ำ ละอองฝุ่น
• รองรับ Dual IS
• วิดีโอ 4K ที่ 60 fps
• 6K Photo
• Wi-Fi /Bluetooth/NFC

สเปคของ Olympus EM1 mark ii

• เซนเซอร์ 20.4MP Live MOS
• หน่วยประมวลผล TruePic VIII Dual Quad Core
• ระบบ Micro Four Thirds
• ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED 2.36 ล้านจุด ความเร็วสูงถึง 120 fps
• หน้าจอสัมผัส หมุนได้ ขนาด 3.0 นิ้ว 1.04 ล้านจุด
• วีดีโอ 4K DCI 4K/24p & UHD 4K/30p
• กันสั่น 5 แกน Sensor-Shift Image Stabilization
• ระบบออโต้โฟกัส Dual FAST AF 121 จุด All Cross-Type
• ISO 64 – 25,600
• SD Card 2 Slots
• แบต Li-ion, BLH-1, 1720mAh
• Wi-Fi

รูปภาพเพิ่มเติม

สรุป

กล้องที่เเอดมินได้นำเสนอนั้น ก็สามารถใช้งานนอกเหนือจากการถ่าย วง BNK48 ได้อย่างดีทีเดียว

ทั้งการใช้งานเเบบมือสมัครเล่น ไปจนถึงการใช้งานเเบบมืออาชีพ เพราะสเปคของกล้องเเต่ละตัวนั้นถือว่าครอบคลุมทุกการใช้งาน

จากการใช้งานกล้องทั้ง 3 ตัวนั้น ได้เเก่ Canon EOS 1DX, Nikon D850 เเละ Sony A9 นั้น ก็ถือได้ว่าทั้งสามตัวนี้มีจุดเด่นที่เเตกต่างกันไป จึงขอสรุปได้ดังนี้ครับ

Canon EOS 1DX : นั้น เป็นกล้องอดีตเรือธง ที่สามารถใช้ถ่าย วง BNK48 ได้ดี ข้อเสียนั้นคือระบบโฟกัสบน Liveview ที่ช้า เเละจอไม่สามารถพับได้ ทำให้การใช้งานเเบบยกถ่ายนั้นค่อนข้างลำบาก เเต่ด้วยราคามือสองที่ค่อนข้างจับต้องได้ประมาณ 60,000 – 90,000 บาท ทำให้กล้องตัวนี้น่าสนใจเพราะราคาครับ

Nikon D850 : เป็นกล้องระดับโปรรองจจากเรือธงของค่าย Nikon อย่าง D5 ซึ่งจากการใช้เเล้ว เจ้า nikon D850 นั้นมีความยืดหยุ่นของไฟล์ค่อนข้างสูง เเละ Dymaric Range ถึง 14.8 Stop ทำให้สามารถเเก้ไขเเสงเเละสีรูปได้สะดวกขึ้น

Sony A9 : MRL Fullframe เรือธงจาก Sony ที่มีระบบโฟกัสไวที่สุดในโลก ทำให้การ Tracking น้อง วง BNK48 นั้นเเม่นยำ ไม่หลุดโฟกัสเเน่นอน!

รูปภาพจาก Event

• Z-cool @Siam
• ททท @ศูนย์สิริกิต
• เเถลงข่าว TGS @Siam
• เปิดตัวจอ Panoramix @Central world
• 16 ก.ย. @สนามบินดอนเมือง

ทางเเอดมินไม่อนุญาตให้นำรูปน้อง BNK ไปใช้นะค้าบบ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่เพจ T H E B R O 48

ขอให้ทุกท่านได้มีความสุขต่อการใช้งานกล้องเพื่อถ่ายในสิ่งที่ตนเองรักด้วยนะครับ ^^